ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ต้มข่าผักรวม



วันนี้มีเพื่อนๆ มาเที่ยวที่บ้านเป็นเพื่อนๆ ที่สนิทกันมาก ตั้งใจทำอาหารกลางวันเลี้ยงตั้งหลายเมนู แต่มีเพื่อนคนนึงเป็นคนป่วยหมอห้ามทานเนื้อและอาหารรสจัด เราเลยจัดอาหารเมนูสุขภาพที่ช่วยลดความเสี่ยงของการสะสมอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดมะเร็งและโรคร้ายอื่นๆ ซึ่งเราเคยอ่านเจอในเน็ตนานมาแล้ว และแอบ Save ไว้ด้วย วันนี้ล่ะจะได้นำมาใช้ซักที เพื่อเพื่อนรักนะนี่ สำหรับใครที่มีญาติป่วยอยู่ก็อย่าลืมจำเอาทำให้ทานนะคะดีต่อสุขภาพคนป่วยค่ะ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าต้มข่าผักเมนูต้านมะเร็ง (แต่เพื่อนๆ คนอื่นก็ไม่น้อยใจเพราะเราทำต้มข่าไก่ให้ทานด้วยนะจ๊ะ)..

สิ่งที่ต้องเตรียม

ข้าวโพดอ่อน 3 ฝัก
ถั่วลันเตา 5 ฝัก
กะหล่ำดอกหั่นชิ้น 100 กรัม
เห็ดนางฟ้าฉีก 100 กรัม
ยอดคะหน้าหั่นท่อน 1 ต้น
หอมใหญ่ซอย1/2 ลูก
น้ำเต้าหู้ 1 ถ้วย
ข่าอ่อนหั่นแว่น 5 แว่น
หอมแดงทุบ 2 หัว
ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
เกลือป่น 1/3 ช้อนชา
ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
พริกขี้หนูสวนทุบ 5 เม็ด
น้ำซุปโพแทสเซียม 2 ถ้วย

วิธีทำ

- ต้มน้ำซุปโพแทสเซียมจนเดือด จากนั้นใส่ข่าอ่อน หอมแดงทุบ ใบมะกรูดฉีก พริกขี้หนูสวนทุบ (ใส่ทั้งก้าน
จะมีกลิ่นหอมและไม่เผ็ดมาก) ต้มจนเดือด
- ใส่ผักทั้งหมดที่เตรียมไว้ลงไป ปรุงรสด้วยเกลือป่น ซีอิ้วขาว น้ำตาล คนให้เข้ากัน
- เติมน้ำเต้าหู้ลงไปคนให้ทั่วสักครู่ (อย่าเคี่ยวนาน) เมื่อเดือดใส่พริกแดงหั่นแฉลบลงไปแล้วปิดไฟ ตักใส่ถ้วยเสริฟ

ส่วนผสมน้ำซุปโพแทสเซียม

น้ำสะอาด 10 ลิตร
หอมใหญ่สับหยาบ 250 กรัม
แครอทสับหยาบ 250 กรัม
มันฝรั่งสับหยาบ 250 กรัม
หัวไชเท้าสับหยาบ 250 กรัม

วิธีทำ

ต้มน้ำให้เดือด นำผักที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในหม้อต้มให้เดือด 15 นาที จากนั้นเคี่ยวต่อไปประมาณ 2 ชั่วโมง ไฟกลางๆ เมื่อได้ที่แล้วทิ้งให้ไว้เย็น กรองเอากากออก นำน้ำซุปที่ได้แบ่งใส่ถุง แช่ช่องแข็งไว้ใช้ทำอาหารต่อไป (ถ้าต้องการทำในปริมาณที่มากให้เพิ่มสัดส่วนตามสูตรนะคะ)

หมายเหตุ

เนื่องจากน้ำเต้าหู้จะไม่เหมือนกะทิ ควรใส่ลงไปหลังสุด และไม่ควรเคี่ยวทิ้งไว้นานเด็ด เพราะจะทำให้ข้นจนเป็นก้อน ทำให้ไม่น่ารับประทาน

ความคิดเห็น

gclub กล่าวว่า
ทำไมน่าทานเช่นนี้อ่ะ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แป้งสาลี

หลายๆท่านที่เคยทำขนมทำเบเกอรี่มาก็ไม่รู้ซักกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ต้อง มีส่วนประกอบของแป้งสาลี เช่น ขนมปัง ขนมเค้ก พิซซ่า บะหมี่ คุ้กกี้ ฯลฯ อาหารต่างๆ เหล่านี้ล้วนทำมาจากแป้งสาลีทั้งสิ้น แป้งสาลีจึงถือว่าเป็นวัตถุดิบที่มีบทบาทสำคัญมากต่อการปรุงอาหารในปัจจุบัน แต่จะมีคนซักกี่คนที่จะรู้จักที่มาที่ไปของแป้งสาลีดีพอ วันนี้เลยมีเรื่องเกี่ยวกับแป้งสาลีมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อที่จะได้รู้จักแป้งสาลีกันมากขึ้น ในสมัยก่อนแป้งสาลีนั้นเราได้จากการบดหรือโม่เมล็ดข้าวให้ได้แป้ง โดยใช้โม่หินเมื่อเวลาผ่านมามนุษย์สมัยก่อนได้รู้จักการผสมแป้ง และน้ำเข้าด้วยกันจนกลายเป็นก้อนโด(Dough)และนำก้อนโดนี้ ไปอบบนหินเผาไฟก้อนโดนี้จะมีลักษณะแข็งภายนอก เนื้อในนุ่ม ซึ่งเหมือนกับการอบขนมปังทั่วๆ ไปนั่นเอง คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่เราควรจะมารู้จักแป้งสาลีให้ดีขึ้น เพื่อที่จะได้นำแป้งสาลีไปใช้ได้ถูกต้องกับการทำอาหาร แต่ละชนิด แป้งสาลีมีคุณสมบัติแตกต่างจากแป้งชนิดอื่นคือ เมื่อผสมน้ำในอัตราส่วนที่ถูกต้องโปรตีนในแป้งจะจับตัวกัน เกิดเป็นก้อนโด (Dough) มีลักษณะเหนียวแต่ยืดหยุ่นได้ สามารถที่จะเก็บแก๊สไว้ได้ ซึ่งจะเป็นโครง

ไข่ปลาทอด

ไข่ปลาก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าทานบ่อยไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เพราะคอเลสเตอรอลสูงมากๆ แต่มันก็อดใจไม่ไหว มันอร่อย คราวที่แล้วก็ทำเมนู ต้มยำไข่ปลา ไปแล้ว คราวนี้ก็ไข่ปลาอีกแล้วแต่เป็นเมนูไข่ปลาทอดแทน ไม่ไหวแล้วขอตัวไปทานไข่ปลาทอดก่อนดีกว่า สิ่งที่้ต้องเตรียม ไข่ปลายี่สก 400 กรัม กระเทียม 7 กลีบ พริกไทย 1/2 ช้อนชา ซีอิ้วชาว 1 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส 1 ช้อนชา แป้งโกกิ 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำไข่ปลาทอด - แกะเปลือกกระเทียมออก ทุบกระเทียมหยาบๆ แล้วสับให้ละเอียด - ล้างไข่ปลาแล้วฉีกพวงไข่ปลาให้แยกออกจากกัน (ส่วนที่เป็นเยื่อหุ้มไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกว่าอะไร) - มักไข่ปลากันกระเทียม พริกไทย ซีอิ้วขาว ผงปรุงรส หมักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที - ละลายแป้งโกกิกับน้ำเย็นให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเทใส่ชามที่หมักไข่ปลา ค่อยๆ คนให้เข้ากัน - ตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับทอด ปรับไฟกลางถึงอ่อน พอร้อนใส่ไข่ปลาลงไปทอด - ขณะที่ทอดห้ามคน รอให้ข้างล่างสุกกรอบก่อนค่อยกลับอีกด้านลงไปทอดให้เหลืองกรอบทั้งสองด้าน จึงตักพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน - จัดใส่จานเสิร์ฟทานกับผักสดและพริกน้ำปลาแซ่บหลายเด้อ

กล้วยกวนสูตรโบราณ

มีกล้วยหอมสุกงอมอยู่ จะเอาทิ้งก็ใช่ที่ ซื้อมาทำไมซื้อมาแล้วไม่กิน เสียดายของ กล้วยน้ำว้าเราก็มีเอามาทำกล้วยกวนทานกันดีกว่าไม่เสียของแถมอร่อยอีกต่างหาก เคยมีคนสอนทำตั้งนานแล้ว เค้าบอกว่าเป็นกล้วยกวนสูตรโบราณด้วยนะเออ มาดูวิธีทำกล้วยกวนสูตรโบราณกันดีกว่าค่ะ สิ่งที่ต้องเตรียม กล้วยน้ำว้าสุกงอม 10 ลูก กล้วยหอมสุกงอม 5 ลูก มะพร้าวขูด 500 กรัม น้ำตาลทราย 200 กรัม เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ วิธีทำ - ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าและกล้วยหอม หั่นเป็นชิ้นแล้วปั่นให้ละเอียด เตรียมไว้ - คั้นมะพร้าวกับน้ำอุ่นให้ได้น้ำกะทิ 2 ถ้วย หางกะทิ 2 ถ้วย - นำหัวกะทิ ตั้งไฟอ่อนเคี่ยวให้เป็นน้ำมัน ยกลงพักทิ้งไว้ - ผสมหางกะทิ กับน้ำตาลทราย ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟกลางให้น้ำตาลละลาย - พอน้ำตาลละลายดีแล้วยกลง ทิ้งไว้สักครู่ให้พอคลายร้อน แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง - เทลงในกระทะทองยกขึ้นตั้งไฟ ใส่กล้วยลงไป ใช้ไฟแรง กวนด้วยไม้พายกวนขนม จากนั้นลดไฟลงใช้ไฟอ่อน ใช้เวลาในการกวนประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง จนมีลักษณะข้นเหนียว - ค่อยๆ เทหัวกะทิลงทีละน้อย กวนให้เข้ากันจนกล้วยแห้งเหนียวพอปั้นได้ ยกลง เทใส่ถาดใช้ไม้คลึงหน้าขนมให้เรียบรอให้เย็นแล้วตัดเ