ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ต้มยำวุ้นเส้นน้ำข้น




คิดเอาไว้กันหรือยังคะ ว่ามื้อกลางวันนี้จะทานอะไรดี แต่ถ้ายังคิดไม่ออกแล้วล่ะก็ ภูมิใจนำเสนอเมนูนี้ "ต้มยำวุ้นเส้น" เมนูเด็ดอร่อยง่ายๆ และได้คุณค่าทางอาหารอีกด้วย ถ้าจะต้องออกไปหาซื้อทาน ขอบอกก่อนว่าข้างนอกอากาศร้อนนะคะ แล้วกว่าจะหาร้านที่ทำต้มยำวุ้นเส้นอร่อยๆ ได้ เดี๋ยวจะลมเสียซะก่อน ถ้าหิวแล้วล่ะก็เข้ามาดูวิธีทำต้มยำวุ้นเส้นกันเลยค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม
กุ้งสดผ่าหลัง 100 กรัม
ปลาหมึกหั่นแว่น 100 กรัม
เห็ดฟางผ่าครึ่ง 100 กรัม
นมข้นจืด 100 กรัม
วุ้นเส้น 100 กรัม
ใบมะกรูด 2 ใบ
ตะไคร้หั่นบาง 1 ต้น
น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
รากผักชี 2 ต้น
ข่า 3 แว่น
มะเขือเทศหั่นเสี้ยว 2 ลูก
พริกขี้หนูทุบ 10 เม็ด
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุป 1 ลิตร

วิธีทำ
- ผสมนมข้นจืด น้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำตาลทราย ให้เข้ากันเตรียมไว้
- ต้มน้ำซุปในหม้อ ใส่ตะไคร้ ใบมะกรูด ข่า รากผักชี ยกขึ้นตั้งไฟให้เดือด แล้วจึงใส่ส่วนผสมที่เตรียมไว้ลงไป
- รอเริ่มเดือดอีกครั้งให้เติมปลาหมึกสด กุ้งสด มะเขือเทศ เห็ดฟาง และพริกขี้หนูทุบ ต้มให้เดือดแล้วปิดไฟ ใส่น้ำมะนาวลงไปคนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบแล้วยกลง
- น้ำวุ้นเส้นไปลวกในน้ำเดือดให้เส้นสุกใส ตักขึ้นผ่านน้ำเย็น จัดใส่ชาม ตักต้มยำราดโรยหน้าด้วยผักชีหรือถ้ามีพริกขี้หนูแห้งทอดกรอบด้วยแล้วล่ะก็ขอบออกว่า "สุโค่ย" รีบยกไปเสิรฟทานร้อนๆ กันเลยค่ะ

หมายเหตุ ถ้าใครอยากทานเส้นอะไรก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้นะคะ ไม่ว่าจะเป็น ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กหรือว่าเส้นใหญ่ เส้นเซี่ยงไฮ้ เส้นบะหมี่ แล้วจะยังเป็นเส้นสปาเก็ตตีหรือว่าเส้นพาสต้าก็ยังได้เลย ก็อย่างที่บอกของกินไม่มีสูตรตายตัวอยู่ที่อร่อยปากเป็นใช้ได้ทั้งนั้นแล

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แป้งสาลี

หลายๆท่านที่เคยทำขนมทำเบเกอรี่มาก็ไม่รู้ซักกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ต้อง มีส่วนประกอบของแป้งสาลี เช่น ขนมปัง ขนมเค้ก พิซซ่า บะหมี่ คุ้กกี้ ฯลฯ อาหารต่างๆ เหล่านี้ล้วนทำมาจากแป้งสาลีทั้งสิ้น แป้งสาลีจึงถือว่าเป็นวัตถุดิบที่มีบทบาทสำคัญมากต่อการปรุงอาหารในปัจจุบัน แต่จะมีคนซักกี่คนที่จะรู้จักที่มาที่ไปของแป้งสาลีดีพอ วันนี้เลยมีเรื่องเกี่ยวกับแป้งสาลีมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อที่จะได้รู้จักแป้งสาลีกันมากขึ้น ในสมัยก่อนแป้งสาลีนั้นเราได้จากการบดหรือโม่เมล็ดข้าวให้ได้แป้ง โดยใช้โม่หินเมื่อเวลาผ่านมามนุษย์สมัยก่อนได้รู้จักการผสมแป้ง และน้ำเข้าด้วยกันจนกลายเป็นก้อนโด(Dough)และนำก้อนโดนี้ ไปอบบนหินเผาไฟก้อนโดนี้จะมีลักษณะแข็งภายนอก เนื้อในนุ่ม ซึ่งเหมือนกับการอบขนมปังทั่วๆ ไปนั่นเอง คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่เราควรจะมารู้จักแป้งสาลีให้ดีขึ้น เพื่อที่จะได้นำแป้งสาลีไปใช้ได้ถูกต้องกับการทำอาหาร แต่ละชนิด แป้งสาลีมีคุณสมบัติแตกต่างจากแป้งชนิดอื่นคือ เมื่อผสมน้ำในอัตราส่วนที่ถูกต้องโปรตีนในแป้งจะจับตัวกัน เกิดเป็นก้อนโด (Dough) มีลักษณะเหนียวแต่ยืดหยุ่นได้ สามารถที่จะเก็บแก๊สไว้ได้ ซึ่งจะเป็นโครง

ไข่ปลาทอด

ไข่ปลาก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าทานบ่อยไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เพราะคอเลสเตอรอลสูงมากๆ แต่มันก็อดใจไม่ไหว มันอร่อย คราวที่แล้วก็ทำเมนู ต้มยำไข่ปลา ไปแล้ว คราวนี้ก็ไข่ปลาอีกแล้วแต่เป็นเมนูไข่ปลาทอดแทน ไม่ไหวแล้วขอตัวไปทานไข่ปลาทอดก่อนดีกว่า สิ่งที่้ต้องเตรียม ไข่ปลายี่สก 400 กรัม กระเทียม 7 กลีบ พริกไทย 1/2 ช้อนชา ซีอิ้วชาว 1 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส 1 ช้อนชา แป้งโกกิ 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำไข่ปลาทอด - แกะเปลือกกระเทียมออก ทุบกระเทียมหยาบๆ แล้วสับให้ละเอียด - ล้างไข่ปลาแล้วฉีกพวงไข่ปลาให้แยกออกจากกัน (ส่วนที่เป็นเยื่อหุ้มไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกว่าอะไร) - มักไข่ปลากันกระเทียม พริกไทย ซีอิ้วขาว ผงปรุงรส หมักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที - ละลายแป้งโกกิกับน้ำเย็นให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเทใส่ชามที่หมักไข่ปลา ค่อยๆ คนให้เข้ากัน - ตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับทอด ปรับไฟกลางถึงอ่อน พอร้อนใส่ไข่ปลาลงไปทอด - ขณะที่ทอดห้ามคน รอให้ข้างล่างสุกกรอบก่อนค่อยกลับอีกด้านลงไปทอดให้เหลืองกรอบทั้งสองด้าน จึงตักพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน - จัดใส่จานเสิร์ฟทานกับผักสดและพริกน้ำปลาแซ่บหลายเด้อ

กล้วยกวนสูตรโบราณ

มีกล้วยหอมสุกงอมอยู่ จะเอาทิ้งก็ใช่ที่ ซื้อมาทำไมซื้อมาแล้วไม่กิน เสียดายของ กล้วยน้ำว้าเราก็มีเอามาทำกล้วยกวนทานกันดีกว่าไม่เสียของแถมอร่อยอีกต่างหาก เคยมีคนสอนทำตั้งนานแล้ว เค้าบอกว่าเป็นกล้วยกวนสูตรโบราณด้วยนะเออ มาดูวิธีทำกล้วยกวนสูตรโบราณกันดีกว่าค่ะ สิ่งที่ต้องเตรียม กล้วยน้ำว้าสุกงอม 10 ลูก กล้วยหอมสุกงอม 5 ลูก มะพร้าวขูด 500 กรัม น้ำตาลทราย 200 กรัม เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ วิธีทำ - ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าและกล้วยหอม หั่นเป็นชิ้นแล้วปั่นให้ละเอียด เตรียมไว้ - คั้นมะพร้าวกับน้ำอุ่นให้ได้น้ำกะทิ 2 ถ้วย หางกะทิ 2 ถ้วย - นำหัวกะทิ ตั้งไฟอ่อนเคี่ยวให้เป็นน้ำมัน ยกลงพักทิ้งไว้ - ผสมหางกะทิ กับน้ำตาลทราย ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟกลางให้น้ำตาลละลาย - พอน้ำตาลละลายดีแล้วยกลง ทิ้งไว้สักครู่ให้พอคลายร้อน แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง - เทลงในกระทะทองยกขึ้นตั้งไฟ ใส่กล้วยลงไป ใช้ไฟแรง กวนด้วยไม้พายกวนขนม จากนั้นลดไฟลงใช้ไฟอ่อน ใช้เวลาในการกวนประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง จนมีลักษณะข้นเหนียว - ค่อยๆ เทหัวกะทิลงทีละน้อย กวนให้เข้ากันจนกล้วยแห้งเหนียวพอปั้นได้ ยกลง เทใส่ถาดใช้ไม้คลึงหน้าขนมให้เรียบรอให้เย็นแล้วตัดเ