Pitchaya's Food

เมนูไข่เจียวนี่เป็นเมนูสามัญประจำบ้านเลย คิดอะไรไม่ออกก็เจียวไข่ไว้ก่อน ถูกปากถูกใจคนทุกเพศทุกวัยเลยล่ะ วันนี้เ็ป็นเมนูไข่เจียวดัดแปลง แล้วแต่ว่าอยากจะใส่อะไรก็ใส่ ยังไงก็เป็นไข่เจียวแน่นอน หน้าตาที่ได้ก็ไม่จำเจด้วย โดยเฉพาะวันนี้เป็นไข่เจียวกุนเชียง น่าทานดีว่ามั๊ยค่ะ มาดูวิธีทำไข่เจียวกุนเชียงกันดีกว่าค่ะ สิ่งที่ต้องเตรียม ไข่ไก่ 2 ฟอง กุนเชียง 1 แท่ง (มากน้อยตามชอบได้ค่ะ) ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา วิธีทำไข่เจียวกุนเชียง - หั่นกุนเชียงเป็นแว่นบางๆ เตรียมไว้ - ตอกไข่ใส่ชาม ใส่ซีอิ้วขาว และพริกไทยป่น ตีเบาให้เข้ากัน - ตั้งกระทะใส่น้ำมัน พอร้อนผัดกุนเชียงด้วยไฟอ่อน ให้เป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ แล้วเกลี่ยกุนเชียงให้กระจายทั่วๆ - เทส่วนผสมของไข่ลงไปบนกุนเชียง ทอดจนไข่สุกทั้ง2ด้าน ตักใส่จานเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อนๆ

สิ่งที่ต้องเตรียม เต้าหู้ขาว 1 ก้อน ลูกชิ้นปลา 200 กรัม กุนเชียง 50 กรัม กระเพาเด็ดใบ 1/2 ถ้วย พริกขี้หนู 10 เม็ด กระเทียม 5 กลีบ ซีอิ้วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา วิธีทำ - ล้างเต้าหู้แล้วตัดครึ่งให้เป็น 2 ชิ้นใหญ่ จากนั้นนำไปทอดให้เหลือง ตักขึ้นพักไว้ให้เย็น แล้วจึงหั่นเต้าหู้เป็นลูกเต๋าขนาด 1 ซม. ใส่ถ้วยเตรียมไว้ - ลูกชิ้นปลาถ้าลูกใหญ่ก็ผ่าสี่ ถ้าลูกเล็กก็ผ่าครึ่งแล้วทอดให้เหลือง ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน - กุนเชียงฝานเป็นแว่นบางๆ แล้วหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปทอดไฟอ่อนๆ พอสุกตักขึ้นพักไว้ - โขลกกระเทียมและพริกขี้หนูให้ละเอียด - กระทะใส่น้ำมันยกขึ้นตั้งไฟ พอร้อนใส่กระเทียมและพริกขี้หนูโขลกลงไปผัดให้หอม - ใส่กุนเชียง ลูกชิ้นปลาและเต้าหู้ตามลงไป ผัดให้เข้ากัน - ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำมันหอยและน้ำตาลทราย (ถ้าไม่ชอบหวานไม่ต้องใส่น้ำตาล เพราะเวลากินถ้าเคี้ยวเจอกุนเชียงก็จะมีรสออกหวานๆ อยู่แล้ว) - ใส่ใบกระเพาลงไปผัดให้เข้ากัน จนกระเพาสุกปิดไฟ ตักใส่จานเสิร์ฟทานกับข้าวสวยร้อนๆ

ต้องขอโทษด้วยที่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลามาอัพเดทข้อมูลให้กับเพื่อนๆ เพราะที่บ้านมีเรื่องยุ่งๆ มีใครเคยเจอปัญหาแบบนี้บ้างหรือเปล่าคะ คือเรามีบ้านอยู่หลังหนึ่งอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร เดิมทีเราก็ซื้อไว้อยู่เอง แต่พอย้ายที่ทำงานก็เลยมาซื้อบ้านหลังใหม่ปิดบ้านหลังนั้นไว้เฉยๆ ก็เลยประกาศให้คนเช่าโดยเราก็มีลูกค้าผ่านมา 2 รุ่นแล้ว แต่ละรุ่นก็ทำสัญญาเช่ากัน 1 ปี ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่พอมาเจอรุ่นที่ 3 นี้ก็พบปัญหา ซึ่งทำให้เราปวดหัวมาก เพราะไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน โดยก่อนที่จะมีการตกลงเช่าเราก็ บอกรายละเอียดกับเค้าหมดแล้วเหมือนกับที่เคยบอกกับ ลูกค้ารายอื่นๆ ที่ผ่านมานั่นแหละ ว่าจะต้องมีค่าเช่าและวางเงินค่าประกันความเสียหาย ของตัวบ้านและทรัพย์สินภายในบ้าน เค้าก็ทำความเข้าใจ และยังถามเราอีกว่าเงินประกันนี้ถ้าอยู่ไม่ครบ 1 ปี เค้าจะได้เงินประกันคืนหรือไม่เราก็บอกเค้าว่าเงินประกันส่วนนี้ ถ้าอยู่ครบ 1 ปี แล้วย้ายออกโดยทรัพย์สินในบ้านอยู่ใน สภาพเิดิมไม่มีการชำรุดเสียหายเราจะคืนให้ทุกบาททุกสตางค์ แต่้ถ้ามีการชำรุดเสียหายเราก็จะหักค่าเสียหายตามนั้น แต่ถ้าอยู่ไม่ครบ 1 ปี เราจะไม่คืนเงินประกันส่วนนี้ และเค้าก็บอกว่าเข...