ต้องขอโทษด้วยที่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลามาอัพเดทข้อมูลให้กับเพื่อนๆ
เพราะที่บ้านมีเรื่องยุ่งๆ มีใครเคยเจอปัญหาแบบนี้บ้างหรือเปล่าคะ คือเรามีบ้านอยู่หลังหนึ่งอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร เดิมทีเราก็ซื้อไว้อยู่เอง แต่พอย้ายที่ทำงานก็เลยมาซื้อบ้านหลังใหม่ปิดบ้านหลังนั้นไว้เฉยๆ ก็เลยประกาศให้คนเช่าโดยเราก็มีลูกค้าผ่านมา 2 รุ่นแล้ว
แต่ละรุ่นก็ทำสัญญาเช่ากัน 1 ปี ก็ไม่มีปัญหาอะไร
แต่พอมาเจอรุ่นที่ 3 นี้ก็พบปัญหา ซึ่งทำให้เราปวดหัวมาก
เพราะไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน โดยก่อนที่จะมีการตกลงเช่าเราก็
บอกรายละเอียดกับเค้าหมดแล้วเหมือนกับที่เคยบอกกับ
ลูกค้ารายอื่นๆ ที่ผ่านมานั่นแหละ
ว่าจะต้องมีค่าเช่าและวางเงินค่าประกันความเสียหาย
ของตัวบ้านและทรัพย์สินภายในบ้าน เค้าก็ทำความเข้าใจ
และยังถามเราอีกว่าเงินประกันนี้ถ้าอยู่ไม่ครบ 1 ปี
เค้าจะได้เงินประกันคืนหรือไม่เราก็บอกเค้าว่าเงินประกันส่วนนี้
ถ้าอยู่ครบ 1 ปี แล้วย้ายออกโดยทรัพย์สินในบ้านอยู่ใน
สภาพเิดิมไม่มีการชำรุดเสียหายเราจะคืนให้ทุกบาททุกสตางค์ แต่้ถ้ามีการชำรุดเสียหายเราก็จะหักค่าเสียหายตามนั้น
แต่ถ้าอยู่ไม่ครบ 1 ปี เราจะไม่คืนเงินประกันส่วนนี้
และเค้าก็บอกว่าเข้าใจแค่ถามไว้เฉยๆ เท่านั้นเอง
แต่จริงๆแล้วอาจจะอยู่ถึง 2 ปี แต่จะเซ็นต์สัญญาปีต่อปี โดยในหนังสือสัญญาเราได้ระบุข้อตกลงต่างๆ ไ้ว้แล้ว และี้เราทั้งสองฝ่ายได้อ่านและทำความเข้าใจกันก่อน
ที่จะลงลายมือเซ็นต์ทำสัญญา แต่พอเค้าอยู่ได้แค่ 2 เิดือน เค้าก็โทรมาบอกว่าวันพรุ่งนี้ชั้นจะย้ายออกแล้วตอน 5 โมงเย็น ให้คุณมาเคลียร์เงินค่าประกันคืนชั้นด้วย เราก็บอกว่าไม่ได้หรอกค่ะเพราะเราได้ตกลงกันแล้วว่าถ้าอยู่
ไม่ครบปีเราจะไม่คืนเงินค่าประกันให้ แล้วอีกอย่างหนึ่งคุณไม่บอกล่วงหน้าให้เราได้เตรียมตัวเลย
คุณบอกวันนี้แล้วจะออกพรุ่งนี้เลย ทางเราเสียหาย
เพราะอย่างน้อยถ้าคุณบอกล่วงหน้าก่อน 1 เดือน เราอาจจะมีเวลาหาลูกค้าเข้ามาอยู่แทนได้ทัน เค้าก็ขู่เราว่า็ตกลงเธอจะเคลียร์กับชั้นดีดีหรือเปล่า เราก็รู้สึกเอะใจว่าตอนนี้เค้ายังอยู่ในบ้านเราอยู่เค้าอาจจะ
ทำลายข้าวของในบ้านเราแล้วออกไปเลยวันนี้ก็ได้
เราก็เลยบอกเค้าว่าขอคุยกับแฟนก่อน วันพรุ่งนี้จะเข้าไป
เีคลียร์กับคุณตอน 5 โมงเย็นตามที่คุณนัดก็แล้วกัน แฟนก็บอกว่าถ้างั้นเราก็คืนให้เค้าไปครึ่งหนึ่งก็แล้วกัน แต่ความจริงเราไม่ต้องคืนเค้าเลยก็ได้เพราะเค้าเป็นคนผิด
สัญญากับเราก่อนและหนังสือสัญญาก็มีอยู่ที่เราฉบับหนึ่ง
แต่เราไม่อยากให้มีปัญหา พอถึงวันนัดยังไม่ถึง 5 โมงเย็นเลย แค่บ่ายโมงเค้าก็โทรมาบอกว่าชั้นย้ายของออกจากบ้านหมดแล้ว
เธอมาเคลียร์กับชั้นเดี๋ยวนี้เลย แต่เรายังทำงานอยู่ไม่สามารถออกไปได้ เราก็เลยบอกเค้าว่ารอเป็น 5 โมงได้มั๊ยเราทำงานอยู่ออกไปไม่ได้ เค้าก็บอกว่าชั้นไม่รอแล้วชั้นรีบเธอโอนเงินให้ชั้นเลยก็แล้วกัน วันหลังชั้นค่อยมาเคลียร์เรื่องกุญแจกับเธอก็แล้วกัน เธอมีกุญแจบ้านไม่ใช่เหรอก็เข้ามาเช็คของในบ้านเองก็แล้วกัน
พอถึง 5 โมงเย็น เราก็พา รปภ.ประจำหมู่บ้านเข้าไปเช็ค
ภายในบ้านด้วย และให้ รปภ.ลงบันทึกไว้เลยว่า
เค้าได้ย้ายออกจากบ้านนี้ไปแล้ว และไม่มีสิทธิ์เข้ามาในบ้านนี้ได้อีก เราได้เปลี่ยนกุญแจบ้านใหม่หมดเลยทั้งหลัง และเรายังพบอีกว่าเค้าไม่ชำระค่าใช้จ่ายอะไรในบ้านเลย
มีบิลเรียกเก็บวางเรี่ยราดเต็มโต๊ะเลย ทั้งค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าขยะ ค่าสาธารณูปโภคอื่นๆอีก แถมเค้ายังติดแอร์ในบ้านเพิ่มเองอีก 1 ตัว แต่เค้ายังไม่ได้รื้อออก เราก็เลยพยายามโทรหาเค้าตั้งหลายครั้ง
เพื่อที่จะเคลียร์กับเค้า แต่เค้าก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์ แฟนบอกว่าแอร์เป็นสมบัติของเค้าให้เอาคืนเค้าไป เราก็เลยปรึกษากับทางสำนักงานของโครงการว่าเราจะให้
ช่างมารื้อแอร์ของเค้าออกแล้วเอาไปฝากไว้ที่โครงการ
และโทรแจ้งให้เค้ามารับของคืนที่โครงการได้มั๊ย
ทางโครงการเค้าก็ไม่รับฝากเค้าแนะนำให้เอาไปฝากไว้ที่สถานีตำรวจ
จนถึงเช้าของวันถัดไป เค้าก็โทรมาหาเราว่าเค้าจะเอาช่าง
มารื้อออกเองวันหลัง แต่เราบอกว่าเราได้เปลี่ยนกุญแจบ้านใหม่หมดแล้ว
เพราะเค้าย้ายออกไปแล้วเราไม่มั่นใจ
ในความปลอดภัยของทรัพย์สินที่อยู่ในบ้านของเรา
เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ไม่มีใครมารับผิดชอบ
เค้าก็คงอ้างว่าเค้าย้ายออกไปแล้วไม่เกี่ยวกับเค้า ถ้าเค้าจะเอารับแอร์คืนก็ต้องโทรแจ้งเราก่อนเราถึงจะไปเปิดบ้านให้
หรือว่าจะให้เราแกะออกเองแล้วเอาไปฝากไว้ที่ไหน
ก็ได้ขอให้แจ้งเรามา ส่วนเงินเราก็จะคืนให้ได้้แต่ไม่ได้ยอดเต็มทั้งหมด เค้าก็ขู่ว่าเธอรู้มั้ยว่าสามีชั้นเป็นใคร สามีชั้นใหญ่นะ ระวังตัวไว้ให้ดี แล้ววางหูโทรศัพท์ใส่เราเฉยเลย (จริงๆ เราไม่รู้หรอกว่าสามีเค้าเป็นใคร เราเคยเจอสามีเค้าหนเดียวเอง แต่เรารู้ว่าเค้าเป็นผู้ชา่ยชาวต่างชาิติ
ผิวสีดำ่ท่าทางก็ดูสุภาพดี) ตอนนี้เราก็เลยยังไม่กล้าที่จะโอนเงินให้เค้าเลย เพราะเราไม่รู้ว่าเค้าจะเอายังไงกับเรากันแน่ (ถ้าใครมีความคิดเห็นดีๆ ช่วยแนะนำเราหน่อยได้มั๊ยคะ จะถือเป็นความกรุณาอย่างมากเลยค่ะ)
เฮ้อ!!!! พูดไปก็ปวดหัวไป ไม่เอาแล้วไม่พูดถึงแล้วดีกว่า
มาคลายเคลียดด้วยการทำปอเปี๊ยะสดทานกันดีกว่า
สิ่งที่ต้องเตรียม
วิธีทำ
น้ำราดปอเปี๊ยะ
วิธีทำ
เพราะที่บ้านมีเรื่องยุ่งๆ มีใครเคยเจอปัญหาแบบนี้บ้างหรือเปล่าคะ คือเรามีบ้านอยู่หลังหนึ่งอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร เดิมทีเราก็ซื้อไว้อยู่เอง แต่พอย้ายที่ทำงานก็เลยมาซื้อบ้านหลังใหม่ปิดบ้านหลังนั้นไว้เฉยๆ ก็เลยประกาศให้คนเช่าโดยเราก็มีลูกค้าผ่านมา 2 รุ่นแล้ว
แต่ละรุ่นก็ทำสัญญาเช่ากัน 1 ปี ก็ไม่มีปัญหาอะไร
แต่พอมาเจอรุ่นที่ 3 นี้ก็พบปัญหา ซึ่งทำให้เราปวดหัวมาก
เพราะไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน โดยก่อนที่จะมีการตกลงเช่าเราก็
บอกรายละเอียดกับเค้าหมดแล้วเหมือนกับที่เคยบอกกับ
ลูกค้ารายอื่นๆ ที่ผ่านมานั่นแหละ
ว่าจะต้องมีค่าเช่าและวางเงินค่าประกันความเสียหาย
ของตัวบ้านและทรัพย์สินภายในบ้าน เค้าก็ทำความเข้าใจ
และยังถามเราอีกว่าเงินประกันนี้ถ้าอยู่ไม่ครบ 1 ปี
เค้าจะได้เงินประกันคืนหรือไม่เราก็บอกเค้าว่าเงินประกันส่วนนี้
ถ้าอยู่ครบ 1 ปี แล้วย้ายออกโดยทรัพย์สินในบ้านอยู่ใน
สภาพเิดิมไม่มีการชำรุดเสียหายเราจะคืนให้ทุกบาททุกสตางค์ แต่้ถ้ามีการชำรุดเสียหายเราก็จะหักค่าเสียหายตามนั้น
แต่ถ้าอยู่ไม่ครบ 1 ปี เราจะไม่คืนเงินประกันส่วนนี้
และเค้าก็บอกว่าเข้าใจแค่ถามไว้เฉยๆ เท่านั้นเอง
แต่จริงๆแล้วอาจจะอยู่ถึง 2 ปี แต่จะเซ็นต์สัญญาปีต่อปี โดยในหนังสือสัญญาเราได้ระบุข้อตกลงต่างๆ ไ้ว้แล้ว และี้เราทั้งสองฝ่ายได้อ่านและทำความเข้าใจกันก่อน
ที่จะลงลายมือเซ็นต์ทำสัญญา แต่พอเค้าอยู่ได้แค่ 2 เิดือน เค้าก็โทรมาบอกว่าวันพรุ่งนี้ชั้นจะย้ายออกแล้วตอน 5 โมงเย็น ให้คุณมาเคลียร์เงินค่าประกันคืนชั้นด้วย เราก็บอกว่าไม่ได้หรอกค่ะเพราะเราได้ตกลงกันแล้วว่าถ้าอยู่
ไม่ครบปีเราจะไม่คืนเงินค่าประกันให้ แล้วอีกอย่างหนึ่งคุณไม่บอกล่วงหน้าให้เราได้เตรียมตัวเลย
คุณบอกวันนี้แล้วจะออกพรุ่งนี้เลย ทางเราเสียหาย
เพราะอย่างน้อยถ้าคุณบอกล่วงหน้าก่อน 1 เดือน เราอาจจะมีเวลาหาลูกค้าเข้ามาอยู่แทนได้ทัน เค้าก็ขู่เราว่า็ตกลงเธอจะเคลียร์กับชั้นดีดีหรือเปล่า เราก็รู้สึกเอะใจว่าตอนนี้เค้ายังอยู่ในบ้านเราอยู่เค้าอาจจะ
ทำลายข้าวของในบ้านเราแล้วออกไปเลยวันนี้ก็ได้
เราก็เลยบอกเค้าว่าขอคุยกับแฟนก่อน วันพรุ่งนี้จะเข้าไป
เีคลียร์กับคุณตอน 5 โมงเย็นตามที่คุณนัดก็แล้วกัน แฟนก็บอกว่าถ้างั้นเราก็คืนให้เค้าไปครึ่งหนึ่งก็แล้วกัน แต่ความจริงเราไม่ต้องคืนเค้าเลยก็ได้เพราะเค้าเป็นคนผิด
สัญญากับเราก่อนและหนังสือสัญญาก็มีอยู่ที่เราฉบับหนึ่ง
แต่เราไม่อยากให้มีปัญหา พอถึงวันนัดยังไม่ถึง 5 โมงเย็นเลย แค่บ่ายโมงเค้าก็โทรมาบอกว่าชั้นย้ายของออกจากบ้านหมดแล้ว
เธอมาเคลียร์กับชั้นเดี๋ยวนี้เลย แต่เรายังทำงานอยู่ไม่สามารถออกไปได้ เราก็เลยบอกเค้าว่ารอเป็น 5 โมงได้มั๊ยเราทำงานอยู่ออกไปไม่ได้ เค้าก็บอกว่าชั้นไม่รอแล้วชั้นรีบเธอโอนเงินให้ชั้นเลยก็แล้วกัน วันหลังชั้นค่อยมาเคลียร์เรื่องกุญแจกับเธอก็แล้วกัน เธอมีกุญแจบ้านไม่ใช่เหรอก็เข้ามาเช็คของในบ้านเองก็แล้วกัน
พอถึง 5 โมงเย็น เราก็พา รปภ.ประจำหมู่บ้านเข้าไปเช็ค
ภายในบ้านด้วย และให้ รปภ.ลงบันทึกไว้เลยว่า
เค้าได้ย้ายออกจากบ้านนี้ไปแล้ว และไม่มีสิทธิ์เข้ามาในบ้านนี้ได้อีก เราได้เปลี่ยนกุญแจบ้านใหม่หมดเลยทั้งหลัง และเรายังพบอีกว่าเค้าไม่ชำระค่าใช้จ่ายอะไรในบ้านเลย
มีบิลเรียกเก็บวางเรี่ยราดเต็มโต๊ะเลย ทั้งค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าขยะ ค่าสาธารณูปโภคอื่นๆอีก แถมเค้ายังติดแอร์ในบ้านเพิ่มเองอีก 1 ตัว แต่เค้ายังไม่ได้รื้อออก เราก็เลยพยายามโทรหาเค้าตั้งหลายครั้ง
เพื่อที่จะเคลียร์กับเค้า แต่เค้าก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์ แฟนบอกว่าแอร์เป็นสมบัติของเค้าให้เอาคืนเค้าไป เราก็เลยปรึกษากับทางสำนักงานของโครงการว่าเราจะให้
ช่างมารื้อแอร์ของเค้าออกแล้วเอาไปฝากไว้ที่โครงการ
และโทรแจ้งให้เค้ามารับของคืนที่โครงการได้มั๊ย
ทางโครงการเค้าก็ไม่รับฝากเค้าแนะนำให้เอาไปฝากไว้ที่สถานีตำรวจ
จนถึงเช้าของวันถัดไป เค้าก็โทรมาหาเราว่าเค้าจะเอาช่าง
มารื้อออกเองวันหลัง แต่เราบอกว่าเราได้เปลี่ยนกุญแจบ้านใหม่หมดแล้ว
เพราะเค้าย้ายออกไปแล้วเราไม่มั่นใจ
ในความปลอดภัยของทรัพย์สินที่อยู่ในบ้านของเรา
เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ไม่มีใครมารับผิดชอบ
เค้าก็คงอ้างว่าเค้าย้ายออกไปแล้วไม่เกี่ยวกับเค้า ถ้าเค้าจะเอารับแอร์คืนก็ต้องโทรแจ้งเราก่อนเราถึงจะไปเปิดบ้านให้
หรือว่าจะให้เราแกะออกเองแล้วเอาไปฝากไว้ที่ไหน
ก็ได้ขอให้แจ้งเรามา ส่วนเงินเราก็จะคืนให้ได้้แต่ไม่ได้ยอดเต็มทั้งหมด เค้าก็ขู่ว่าเธอรู้มั้ยว่าสามีชั้นเป็นใคร สามีชั้นใหญ่นะ ระวังตัวไว้ให้ดี แล้ววางหูโทรศัพท์ใส่เราเฉยเลย (จริงๆ เราไม่รู้หรอกว่าสามีเค้าเป็นใคร เราเคยเจอสามีเค้าหนเดียวเอง แต่เรารู้ว่าเค้าเป็นผู้ชา่ยชาวต่างชาิติ
ผิวสีดำ่ท่าทางก็ดูสุภาพดี) ตอนนี้เราก็เลยยังไม่กล้าที่จะโอนเงินให้เค้าเลย เพราะเราไม่รู้ว่าเค้าจะเอายังไงกับเรากันแน่ (ถ้าใครมีความคิดเห็นดีๆ ช่วยแนะนำเราหน่อยได้มั๊ยคะ จะถือเป็นความกรุณาอย่างมากเลยค่ะ)
เฮ้อ!!!! พูดไปก็ปวดหัวไป ไม่เอาแล้วไม่พูดถึงแล้วดีกว่า
มาคลายเคลียดด้วยการทำปอเปี๊ยะสดทานกันดีกว่า
สิ่งที่ต้องเตรียม
กุ้งสดปอกเปลือกนึ่ง 18-20 ตัว
เต้าหู้หั่นยาว
แผ่นแป้งปอเปี๊ยะ
ถั่วแขกต้ม
แครอทหั่นยาวต้ม
กุนเชียงหั่นยาว
ไข่เจียว
ถั่วงอกลวก
วิธีทำ
- นำแผ่นแป้งตัดเป็นวงกลมขนาด 30 ซม.
วางลงบนจานและพรมน้ำ
- ใส่กุ้งสดนึ่ง เต้าหู้ ถั่วแขกต้ม แครอท ไข่เจียว ถั่วงอก
- พับริมแป้งทั้งสองด้านเข้าหากัน จากนั้นม้วนแผ่นแป้ง
ให้เป็นท่อนกลมแน่น
- หั่นปอเปี๊ยะเป็นคำๆ จัดใส่จานเสิรฟพร้อมน้ำจิ้มปอเปี๊ย โดยจะราดน้ำจิ้มลงบนปอเปี๊ยะเลยก็ได้หรือจะแบ่งน้ำจิ้ม
ใส่ถ้วยเล็กวางบนจานเสิรฟ
น้ำราดปอเปี๊ยะ
น้ำตาลทรายแดง1/2ถ้วย
ส้มมะขามเปียกละลายน้ำ 3 ช้อนโต้ะ
น้ำเปล่า 1 ถ้วย
ผงพะโล้ 1/2ช้อนชา
เกลือป่น 2 ช้อนชา
แป้งมัน 2 ช้อนโต้ะ
วิธีทำ
- ใส่น้ำเปล่าลงไปในหม้อต้มจนน้ำเดือด ใส่น้ำตาลทราย
น้ำส้มมะขามเปียก ผงพะโล้ เกลือป่น เคี่ยวส่วนผสมทั้งหมด
ตั้งไฟอ่อนๆ เคี่ยวพอให้ข้นๆ ให้สีออกน้ำตาลเข้ม
- ชิมรสดูให้ออก หวาน เปรี้ยว เค็ม ตามลำดับ
ละลายแป้งมันสัก 2 ช้อนโต้ะ ในน้ำสะอาดนิดหน่อย ค่อยๆ ใส่ตอนที่ส่วนผสมเดือด คนเร็วๆ ถ้าชอบให้น้ำตาลเหนียวๆ ก็ไม่ต้องใส่แป้งละลายน้ำเยอะใส่แค่ครึ่งส่วนที่เตรียมไว้ก็พอค่ะ
ความคิดเห็น