ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ส้ามะเขือแจ้

วันนี้เรามีอาหารพื้นบ้านของชาวเหนือแท้ๆ โดยเฉพาะเราซึ่งพื้นเพเดิมเป็นสาวชาวน่าน (ก่อนที่จะกลายมาเป็นสาวเจียงใหม่ อิอิ) นั่นก็คือเมนูส้ามะเขือแจ้ ที่มาของเมนูนี้ก็เพราะแฟนไปสำรวจสวนหลังจากฝนตกหนักเมื่อคืน พอกลับขึ้นมาหอบมะเขือแจ้มาด้วย บอกว่าอยากจะกินส้ามะเขือแจ้ หน้าที่เมียที่ดีก็ไม่รีรอรีบสนองความต้องการทันที เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าการส้ามะเขือแจ้สูตรของสาวเมืองน่านจะทำยังไงน๊อ อิอิ

สิ่งที่ต้องเตรียม
มะเขือแจ้ (มะเขือขื่น) 20 ลูก
น้ำปูปลายช้อนโต๊ะ (น้ำปู๋แสนอร่อยของคนเมืองเช่นเรา อิอิ)
น้ำปลาร้าต้มสุก 1/2 ถ้วย
ตะไคร้ซอย 2 ต้น
หอมแดงซอย 4 หัว
กระเทียมสับ 4-5 กลีบ
ใบมะกรูดหั่นฝอย 4-5 ใบ
ใบชะพลูหั่นฝอย7 ใบ
ผักชีฝรั่งหั่นฝอย 4 ใบ
พริกขี้หนูป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำส้ามะเขือแจ้
- เราก็มาเริ่มจากนำมะเขือแจ้มาปอกเปลือกออกก่อน นำมะเขือที่ปอกแล้วแช่น้ำไว้ค่ะ (อย่าลืมใส่ถุงมือยางด้วยนะคะ ไม่งั้นมือดำไม่รู้ด้วยน๊า) ซอยมะเขือบางๆ จนหมด
- นำมะเขือที่ซอยแล้วใส่ในถุงผ้าขาวบาง ใส่เกลือป่นลงไปด้วย จากนั้นนำไปนวดไปคั้นเอาน้ำมะเขือออก แล้วนำไปนวดกับน้ำเปล่าอีก 2-3 รอบจนกว่ามะเขือจะหมดความขื่น เสร็จแล้วบีบเอาน้ำออกให้หมาด
- นำมะเขือที่ได้ใส่ลงไปในชาม สังเกตดูว่าจะมีเมล็ดมะเขือเหลืออยู่ก้นถุงเ็ต็มเลย ให้เททิ้งไปได้เลยไม่ต้องเอาค่ะ (มะเขือขื่นจะมีเมล็ดเยอะมาก ขนาดเราเอาออกไปมากแล้ว ก็ยังดูมีเยอะอยู่เลย) ใส่กระเทียมสับ หอมแดงซอย ตะไคร้ ใบมะกรูด ผักชีฝรั่ง ใบชะพลู และพริกป่น
- จากนั้นก็นำน้ำปลาร้าต้มสุกใส่ลงไป ไม่ต้องใส่เยอะนะคะ ค่อยๆ ใส่ ถ้าเห็นว่าพอดีแล้วก็หยุดใ่ส่ค่ะ (เราไม่แน่ใจในปริมาณที่จะใส่เลยกะๆ ใ่ส่ลงไปเอง)
- พอใส่น้ำปลาร้าเสร็จแล้วก็คนให้เข้ากัน
- ทีนี้ก็ถึงเวลาของพระเอกอย่างน้ำปูแล้วค่ะ (ของโปรดของเราเลย ถ้าวันไหนมีข้าวเหนียวร้อนๆชอบเอามาจิ้มๆ กิน อร่อยดีค่ะ อารมณ์สาวเหนือแต้ๆ อิอิ)
- จากนั้นก็คนให้เข้ากัน ชิมรส ถ้าขาดอะไรก็ปรุงเพิ่มได้ ทั้งพริกป่น น้ำปลาร้า และน้ำปู เมื่อเรียบร้อยแล้วก็ตักใส่ถ้วยยกไปกินกับข้าวเหนียวได้เลยค่ะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แป้งสาลี

หลายๆท่านที่เคยทำขนมทำเบเกอรี่มาก็ไม่รู้ซักกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ต้อง มีส่วนประกอบของแป้งสาลี เช่น ขนมปัง ขนมเค้ก พิซซ่า บะหมี่ คุ้กกี้ ฯลฯ อาหารต่างๆ เหล่านี้ล้วนทำมาจากแป้งสาลีทั้งสิ้น แป้งสาลีจึงถือว่าเป็นวัตถุดิบที่มีบทบาทสำคัญมากต่อการปรุงอาหารในปัจจุบัน แต่จะมีคนซักกี่คนที่จะรู้จักที่มาที่ไปของแป้งสาลีดีพอ วันนี้เลยมีเรื่องเกี่ยวกับแป้งสาลีมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อที่จะได้รู้จักแป้งสาลีกันมากขึ้น ในสมัยก่อนแป้งสาลีนั้นเราได้จากการบดหรือโม่เมล็ดข้าวให้ได้แป้ง โดยใช้โม่หินเมื่อเวลาผ่านมามนุษย์สมัยก่อนได้รู้จักการผสมแป้ง และน้ำเข้าด้วยกันจนกลายเป็นก้อนโด(Dough)และนำก้อนโดนี้ ไปอบบนหินเผาไฟก้อนโดนี้จะมีลักษณะแข็งภายนอก เนื้อในนุ่ม ซึ่งเหมือนกับการอบขนมปังทั่วๆ ไปนั่นเอง คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่เราควรจะมารู้จักแป้งสาลีให้ดีขึ้น เพื่อที่จะได้นำแป้งสาลีไปใช้ได้ถูกต้องกับการทำอาหาร แต่ละชนิด แป้งสาลีมีคุณสมบัติแตกต่างจากแป้งชนิดอื่นคือ เมื่อผสมน้ำในอัตราส่วนที่ถูกต้องโปรตีนในแป้งจะจับตัวกัน เกิดเป็นก้อนโด (Dough) มีลักษณะเหนียวแต่ยืดหยุ่นได้ สามารถที่จะเก็บแก๊สไว้ได้ ซึ่งจะเป็นโครง

ไข่ปลาทอด

ไข่ปลาก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าทานบ่อยไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เพราะคอเลสเตอรอลสูงมากๆ แต่มันก็อดใจไม่ไหว มันอร่อย คราวที่แล้วก็ทำเมนู ต้มยำไข่ปลา ไปแล้ว คราวนี้ก็ไข่ปลาอีกแล้วแต่เป็นเมนูไข่ปลาทอดแทน ไม่ไหวแล้วขอตัวไปทานไข่ปลาทอดก่อนดีกว่า สิ่งที่้ต้องเตรียม ไข่ปลายี่สก 400 กรัม กระเทียม 7 กลีบ พริกไทย 1/2 ช้อนชา ซีอิ้วชาว 1 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส 1 ช้อนชา แป้งโกกิ 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำไข่ปลาทอด - แกะเปลือกกระเทียมออก ทุบกระเทียมหยาบๆ แล้วสับให้ละเอียด - ล้างไข่ปลาแล้วฉีกพวงไข่ปลาให้แยกออกจากกัน (ส่วนที่เป็นเยื่อหุ้มไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกว่าอะไร) - มักไข่ปลากันกระเทียม พริกไทย ซีอิ้วขาว ผงปรุงรส หมักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที - ละลายแป้งโกกิกับน้ำเย็นให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเทใส่ชามที่หมักไข่ปลา ค่อยๆ คนให้เข้ากัน - ตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับทอด ปรับไฟกลางถึงอ่อน พอร้อนใส่ไข่ปลาลงไปทอด - ขณะที่ทอดห้ามคน รอให้ข้างล่างสุกกรอบก่อนค่อยกลับอีกด้านลงไปทอดให้เหลืองกรอบทั้งสองด้าน จึงตักพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน - จัดใส่จานเสิร์ฟทานกับผักสดและพริกน้ำปลาแซ่บหลายเด้อ

กล้วยกวนสูตรโบราณ

มีกล้วยหอมสุกงอมอยู่ จะเอาทิ้งก็ใช่ที่ ซื้อมาทำไมซื้อมาแล้วไม่กิน เสียดายของ กล้วยน้ำว้าเราก็มีเอามาทำกล้วยกวนทานกันดีกว่าไม่เสียของแถมอร่อยอีกต่างหาก เคยมีคนสอนทำตั้งนานแล้ว เค้าบอกว่าเป็นกล้วยกวนสูตรโบราณด้วยนะเออ มาดูวิธีทำกล้วยกวนสูตรโบราณกันดีกว่าค่ะ สิ่งที่ต้องเตรียม กล้วยน้ำว้าสุกงอม 10 ลูก กล้วยหอมสุกงอม 5 ลูก มะพร้าวขูด 500 กรัม น้ำตาลทราย 200 กรัม เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ วิธีทำ - ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าและกล้วยหอม หั่นเป็นชิ้นแล้วปั่นให้ละเอียด เตรียมไว้ - คั้นมะพร้าวกับน้ำอุ่นให้ได้น้ำกะทิ 2 ถ้วย หางกะทิ 2 ถ้วย - นำหัวกะทิ ตั้งไฟอ่อนเคี่ยวให้เป็นน้ำมัน ยกลงพักทิ้งไว้ - ผสมหางกะทิ กับน้ำตาลทราย ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟกลางให้น้ำตาลละลาย - พอน้ำตาลละลายดีแล้วยกลง ทิ้งไว้สักครู่ให้พอคลายร้อน แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง - เทลงในกระทะทองยกขึ้นตั้งไฟ ใส่กล้วยลงไป ใช้ไฟแรง กวนด้วยไม้พายกวนขนม จากนั้นลดไฟลงใช้ไฟอ่อน ใช้เวลาในการกวนประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง จนมีลักษณะข้นเหนียว - ค่อยๆ เทหัวกะทิลงทีละน้อย กวนให้เข้ากันจนกล้วยแห้งเหนียวพอปั้นได้ ยกลง เทใส่ถาดใช้ไม้คลึงหน้าขนมให้เรียบรอให้เย็นแล้วตัดเ