ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ลอดช่อง





อากาศร้อนๆ หาเรื่องทำอะไรหวานๆ เย็นๆ ทานกันดีกว่าค่ะ อย่างวันนี้มีของหวานดับคาวหลังอาหารมือกลางวันเป็น ลอดช่องนำ้กะทิ แสนอร่อย มีวิธีทำตัวลอดช่องไทยๆ ด้วยตัวเองเลยนะ มาดูกันดีกว่าค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
ใบเตยหอม 5 ใบ
ปูนแดง 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า

วิธีทำ
- นำใบเตยมาหั่นเป็นท่อนสั้นๆ ใส่ลงไปในโถปั่น เติมน้ำลงไป1/2 ถ้วย ปั่นให้ละเอียด แล้วกรองเอาแต่น้ำ ใส่ถ้วยไว้ (ครั้งแรกทำใส่ใบเตยเยอะเกินไปทำให้เนื้อขนมออกขมๆ ทานไม่อร่อย)
- ละลายปูนแดงกับน้ำเปล่า แล้วปล่อยทิ้งไว้จนตกตะกอน รินเอาแต่น้ำใสๆ ให้ได้ซัก 3 1/2 ถ้วย ก็จะได้น้ำปูนใสสำหรับทำขนมแล้ว
- เอาแป้งข้าวเจ้าละลายกับน้ำใบเตยและน้ำปูนใส ทั้งหมดที่เตรียมไว้ คนจนส่วนผสมเข้ากัน
- เทส่วนผสมลงในกระทะเทปล่อน ปรับไฟอ่อน กวนไปเรื่อยๆ จนข้น ปิดไฟ
- ตักแป้งกวนใส่ลงไปที่ตัวกดลอดช่อง (ถ้าไม่มีเอากระป๋องนมเจาะรู แล้วใช้ขวดที่มีขนาดพอดีกับตัวกระป๋องเป็นที่กดแทนก็แล้วกัน) แล้วกดแป้งลงในชามใส่น้ำเย็นจัด กดไปเรื่อยจนกว่าจะหมดแป้ง
- ใช้กระชอนตักตัวขนมออกพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ เวลาจะทานให้ใส่น้ำกะทิลงไปเติมน้ำแข็งทุบ แค่นี้ก็ได้ลอดช่องน้ำกะทิหวานเย็นหอมชื่นใจไว้ทานแล้วค่ะ

ส่วนผสมของน้ำกะทิ
น้ำตาลปี๊บ 300 กรัม
น้ำกะทิ 1 กล่อง (ขนาด500 มล.)
เกลือป่น ¼ ช้อนชา

วิธีทำน้ำกะทิ
ละลายน้ำตาลปี๊บลงในน้ำกะทิ ใส่เกลือป่น ยกขึ้นตั้งไฟ เอาแค่พอเริ่มใกล้เดือด ปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็น เราก็จะได้น้ำกะทิที่เอาไว้ใส่ลอดช่องแล้วค่ะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แป้งสาลี

หลายๆท่านที่เคยทำขนมทำเบเกอรี่มาก็ไม่รู้ซักกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ต้อง มีส่วนประกอบของแป้งสาลี เช่น ขนมปัง ขนมเค้ก พิซซ่า บะหมี่ คุ้กกี้ ฯลฯ อาหารต่างๆ เหล่านี้ล้วนทำมาจากแป้งสาลีทั้งสิ้น แป้งสาลีจึงถือว่าเป็นวัตถุดิบที่มีบทบาทสำคัญมากต่อการปรุงอาหารในปัจจุบัน แต่จะมีคนซักกี่คนที่จะรู้จักที่มาที่ไปของแป้งสาลีดีพอ วันนี้เลยมีเรื่องเกี่ยวกับแป้งสาลีมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อที่จะได้รู้จักแป้งสาลีกันมากขึ้น ในสมัยก่อนแป้งสาลีนั้นเราได้จากการบดหรือโม่เมล็ดข้าวให้ได้แป้ง โดยใช้โม่หินเมื่อเวลาผ่านมามนุษย์สมัยก่อนได้รู้จักการผสมแป้ง และน้ำเข้าด้วยกันจนกลายเป็นก้อนโด(Dough)และนำก้อนโดนี้ ไปอบบนหินเผาไฟก้อนโดนี้จะมีลักษณะแข็งภายนอก เนื้อในนุ่ม ซึ่งเหมือนกับการอบขนมปังทั่วๆ ไปนั่นเอง คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่เราควรจะมารู้จักแป้งสาลีให้ดีขึ้น เพื่อที่จะได้นำแป้งสาลีไปใช้ได้ถูกต้องกับการทำอาหาร แต่ละชนิด แป้งสาลีมีคุณสมบัติแตกต่างจากแป้งชนิดอื่นคือ เมื่อผสมน้ำในอัตราส่วนที่ถูกต้องโปรตีนในแป้งจะจับตัวกัน เกิดเป็นก้อนโด (Dough) มีลักษณะเหนียวแต่ยืดหยุ่นได้ สามารถที่จะเก็บแก๊สไว้ได้ ซึ่งจะเป็นโครง

ไข่ปลาทอด

ไข่ปลาก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าทานบ่อยไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เพราะคอเลสเตอรอลสูงมากๆ แต่มันก็อดใจไม่ไหว มันอร่อย คราวที่แล้วก็ทำเมนู ต้มยำไข่ปลา ไปแล้ว คราวนี้ก็ไข่ปลาอีกแล้วแต่เป็นเมนูไข่ปลาทอดแทน ไม่ไหวแล้วขอตัวไปทานไข่ปลาทอดก่อนดีกว่า สิ่งที่้ต้องเตรียม ไข่ปลายี่สก 400 กรัม กระเทียม 7 กลีบ พริกไทย 1/2 ช้อนชา ซีอิ้วชาว 1 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส 1 ช้อนชา แป้งโกกิ 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำไข่ปลาทอด - แกะเปลือกกระเทียมออก ทุบกระเทียมหยาบๆ แล้วสับให้ละเอียด - ล้างไข่ปลาแล้วฉีกพวงไข่ปลาให้แยกออกจากกัน (ส่วนที่เป็นเยื่อหุ้มไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกว่าอะไร) - มักไข่ปลากันกระเทียม พริกไทย ซีอิ้วขาว ผงปรุงรส หมักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที - ละลายแป้งโกกิกับน้ำเย็นให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเทใส่ชามที่หมักไข่ปลา ค่อยๆ คนให้เข้ากัน - ตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับทอด ปรับไฟกลางถึงอ่อน พอร้อนใส่ไข่ปลาลงไปทอด - ขณะที่ทอดห้ามคน รอให้ข้างล่างสุกกรอบก่อนค่อยกลับอีกด้านลงไปทอดให้เหลืองกรอบทั้งสองด้าน จึงตักพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน - จัดใส่จานเสิร์ฟทานกับผักสดและพริกน้ำปลาแซ่บหลายเด้อ

แกงกะหล่ำปลีใส่หมู

ไปเที่ยวที่บ้านกลับมาคราวนี้ เราแบกผักสดมาจากบ้านเยอะมาก มีทั้งลูกขนุนอ่อน ถั่วฝักยาว พริกหนุ่ม กระเทียมสด มะเขือเทศ แล้วยังมีกะหล่ำปลีอีกด้วย ทุุกอย่างเป็นผลิตผลจากสวนของน้าซึ่งเป็นน้องชายของแม่ทั้งนั้น วันนี้เราเลยลงมือทำแกงกะหล่ำปลีใส่หมู ซึ่งเป็นสูตรอาหารของชาวเหนือแท้ๆ มาค่ะมาดูว่าแกงกะหล่ำปลีใส่หมูของสาวเหนือเช่นเราทำกันยังไงน๊า สิ่งที่ต้องเตรียม กะหล่ำปลีซอยหยาบๆ 1 หัว (ประมาณ 500 กรัม) เนื้อหมูหั่นชิ้นพอดีคำ 250 กรัม มะเขือเทศสีดาผ่าครึ่ง 5-6 ลูก พริกขี้หนูแห้ง 12 เม็ด กระเทียม 7 กลีบ หอมแดง 2 หัว เกลือป่น 1/2 ช้อนชา กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ ต้นหอมผักชีซอย 2-3 ต้น วิธีทำแกงกะหล่ำใส่หมู - เรามาลงมือตำน้ำพริกกันก่อนค่ะ โดยนำพริกแห้ง หอมแดง กระเทียม เกลือป่น และกะปิ ใส่ครกตำให้ละเอียด - เอาหมูใส่ลงไปในหม้อ ตักน้ำพริกแกงที่ตำไว้ใส่ตามลงไป - ใช้น้ำเปล่าล้างครกให้เกลี้ยง เทใส่ลงไปในหม้อ คนให้พริกแกงละลาย ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ คั่วไปเรื่อยๆ จนน้ำเริ่มแห้ง ทีนี้ก็ใส่น้ำลงไปกะให้ท่วมเนื้อหมูและกะหล่ำปลี ตั้งทิ้งไว้รอให้เดือด - พอน้ำในหม้อเดือด ก็ใ่ส่กะหล่ำปลีลงไป ใช้ทัพพีกดเบาๆ ให