ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

คุณรู้อะไรเกี่ยวกับไข่ที่ใช้ทานบ้าง




- ทำไมไข่ทุกฟองไม่ฟักเป็นตัว
ไข่ที่ถูกปล่อยออกมาตามท่อรังในขบวนการผลิตของไข่อย่างสม่ำเสมอในแต่และฟอง สำหรับตัวแม่ไก่ก็พร้อมจะวางไข่ ในกระบวนการนี้จะดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยไม่สนใจว่าไข่แต่ละฟองจะได้มีการปฏิสนธิหรือไม่ก็ตาม นั่นก็คือสาเหตุที่ไข่ไก่ทุกฟองไม่ฟักออกมาเป็นตัว

- อะไรมีประโยชน์กว่ากันระหว่างไข่ดิบกับไข่สุก
ในขบวนการผลิตของไข่อาจทำให้สิ่งสกปรกซึมผ่านตามรูพรุนของไข่ หรือไม่ไข่อาจได้รับเชื้อบางอย่างจากตัวแม่ ทำให้ไข่ดิบอาจจะมีเชื้อโรคปะปนอยู่ และไข่ขาวดิบยังย่อยยากอีกด้วย หากเรากินไข่ขาวดิบๆ เข้าไป มันจะผ่านกระเพาะอาหารและลำไส้ไปง่ายๆ โดยไม่ได้รับการย่อย ร่างกายก็ไม่สามารถดูดซึมสารอาหารต่างๆ นี้ได้ หากคิดจะกินไข่ลวกควรลวกให้ไข่ขาวสุกเสียก่อน

- เก็บไข่อย่างไรให้ได้นาน

ลักษณะของเปลือกจะ เป็นรูพรุนตลอดทั้งฟอง รูที่เปลือกมีขนาดเล็กมาก โดยที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ผิวของไข่ที่เราเห็นอยู่นั้นจึงดูเรียบเนียน เมื่อเปลือกมีรูพรุนทำให้ไข่สามารถดูดซึมกลิ่นต่างๆ เข้าไปได้ง่าย จึงไม่ควรเก็บไข่ไว้กับอาหารพวกที่มีกลิ่นฉุน เช่น กะปิ น้ำปลา ควรเก็บไข่ไว้ในตู้เย็นจะเหมาะกว่าเก็บไว้ในที่อุณหภูมิปกติ และควรเรียงไข่ลงในภาชนะแล้ววางไว้บนชั้นวางธรรมดาของตู้เย็นจะดีกว่าใส่ในช่องวางไข่ที่ผนังประตู เพราะบริเวณนี้จะมีอุณหภูมิที่สูงทำให้ไข่เสียเร็วขึ้น

- วางไข่ลงในลักษณะไหนถึงจะดี

ควรวางด้านแหลมของไข่ลงและให้ด้านป้านอยู่บน ไข่แดงจะมีน้ำหนักเบากว่าไข่ขาว แม้จะพยายามลอยตัวขึ้นด้านบน แต่ก็จะปะทะกับโพรงอากาศที่อยู่ทางด้านป้านแทนการปะทะกับเปลือกไข่โดยตรง ไข่แดงจึงอยู่ตรงจุดกลางใบ หากเราเปลี่ยนเอาทางด้านป้านลงไข่แดงจะลอยขึ้นไปติดที่ เปลือกไข่ทำให้ไข่แดงแตกง่ายเวลาตอก ดังนั้นการเก็บไข่ที่ถูกต้องจึงควรนำด้านแหลมลงทุกครั้ง

- ประโยชน์ของไข่ไม่ใช่แค่เป็นอาหาร

ไข่แดง สามารถนำมาทำสบู่ สี แชมพู ตกแต่งหนังสัตว์ บำรุงผิว
ไข่ขาว นำมาทำเป็นส่วนประกอบของยางบางชนิด ทำสีทาสิ่งของ ทำกาว ทำหมึกพิมพ์ ช่วยย้อมหนัง แล้วยังกำจัดสิวเสี้ยนได้อีกด้วย
เปลือกไข่ นำมาทำอาหารสัตว์ ปุ๋ย และนำไปทำสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ได้อีกหลายอย่าง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แป้งสาลี

หลายๆท่านที่เคยทำขนมทำเบเกอรี่มาก็ไม่รู้ซักกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ต้อง มีส่วนประกอบของแป้งสาลี เช่น ขนมปัง ขนมเค้ก พิซซ่า บะหมี่ คุ้กกี้ ฯลฯ อาหารต่างๆ เหล่านี้ล้วนทำมาจากแป้งสาลีทั้งสิ้น แป้งสาลีจึงถือว่าเป็นวัตถุดิบที่มีบทบาทสำคัญมากต่อการปรุงอาหารในปัจจุบัน แต่จะมีคนซักกี่คนที่จะรู้จักที่มาที่ไปของแป้งสาลีดีพอ วันนี้เลยมีเรื่องเกี่ยวกับแป้งสาลีมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อที่จะได้รู้จักแป้งสาลีกันมากขึ้น ในสมัยก่อนแป้งสาลีนั้นเราได้จากการบดหรือโม่เมล็ดข้าวให้ได้แป้ง โดยใช้โม่หินเมื่อเวลาผ่านมามนุษย์สมัยก่อนได้รู้จักการผสมแป้ง และน้ำเข้าด้วยกันจนกลายเป็นก้อนโด(Dough)และนำก้อนโดนี้ ไปอบบนหินเผาไฟก้อนโดนี้จะมีลักษณะแข็งภายนอก เนื้อในนุ่ม ซึ่งเหมือนกับการอบขนมปังทั่วๆ ไปนั่นเอง คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่เราควรจะมารู้จักแป้งสาลีให้ดีขึ้น เพื่อที่จะได้นำแป้งสาลีไปใช้ได้ถูกต้องกับการทำอาหาร แต่ละชนิด แป้งสาลีมีคุณสมบัติแตกต่างจากแป้งชนิดอื่นคือ เมื่อผสมน้ำในอัตราส่วนที่ถูกต้องโปรตีนในแป้งจะจับตัวกัน เกิดเป็นก้อนโด (Dough) มีลักษณะเหนียวแต่ยืดหยุ่นได้ สามารถที่จะเก็บแก๊สไว้ได้ ซึ่งจะเป็นโครง

ไข่ปลาทอด

ไข่ปลาก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าทานบ่อยไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เพราะคอเลสเตอรอลสูงมากๆ แต่มันก็อดใจไม่ไหว มันอร่อย คราวที่แล้วก็ทำเมนู ต้มยำไข่ปลา ไปแล้ว คราวนี้ก็ไข่ปลาอีกแล้วแต่เป็นเมนูไข่ปลาทอดแทน ไม่ไหวแล้วขอตัวไปทานไข่ปลาทอดก่อนดีกว่า สิ่งที่้ต้องเตรียม ไข่ปลายี่สก 400 กรัม กระเทียม 7 กลีบ พริกไทย 1/2 ช้อนชา ซีอิ้วชาว 1 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส 1 ช้อนชา แป้งโกกิ 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำไข่ปลาทอด - แกะเปลือกกระเทียมออก ทุบกระเทียมหยาบๆ แล้วสับให้ละเอียด - ล้างไข่ปลาแล้วฉีกพวงไข่ปลาให้แยกออกจากกัน (ส่วนที่เป็นเยื่อหุ้มไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกว่าอะไร) - มักไข่ปลากันกระเทียม พริกไทย ซีอิ้วขาว ผงปรุงรส หมักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที - ละลายแป้งโกกิกับน้ำเย็นให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเทใส่ชามที่หมักไข่ปลา ค่อยๆ คนให้เข้ากัน - ตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับทอด ปรับไฟกลางถึงอ่อน พอร้อนใส่ไข่ปลาลงไปทอด - ขณะที่ทอดห้ามคน รอให้ข้างล่างสุกกรอบก่อนค่อยกลับอีกด้านลงไปทอดให้เหลืองกรอบทั้งสองด้าน จึงตักพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน - จัดใส่จานเสิร์ฟทานกับผักสดและพริกน้ำปลาแซ่บหลายเด้อ

กล้วยกวนสูตรโบราณ

มีกล้วยหอมสุกงอมอยู่ จะเอาทิ้งก็ใช่ที่ ซื้อมาทำไมซื้อมาแล้วไม่กิน เสียดายของ กล้วยน้ำว้าเราก็มีเอามาทำกล้วยกวนทานกันดีกว่าไม่เสียของแถมอร่อยอีกต่างหาก เคยมีคนสอนทำตั้งนานแล้ว เค้าบอกว่าเป็นกล้วยกวนสูตรโบราณด้วยนะเออ มาดูวิธีทำกล้วยกวนสูตรโบราณกันดีกว่าค่ะ สิ่งที่ต้องเตรียม กล้วยน้ำว้าสุกงอม 10 ลูก กล้วยหอมสุกงอม 5 ลูก มะพร้าวขูด 500 กรัม น้ำตาลทราย 200 กรัม เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ วิธีทำ - ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าและกล้วยหอม หั่นเป็นชิ้นแล้วปั่นให้ละเอียด เตรียมไว้ - คั้นมะพร้าวกับน้ำอุ่นให้ได้น้ำกะทิ 2 ถ้วย หางกะทิ 2 ถ้วย - นำหัวกะทิ ตั้งไฟอ่อนเคี่ยวให้เป็นน้ำมัน ยกลงพักทิ้งไว้ - ผสมหางกะทิ กับน้ำตาลทราย ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟกลางให้น้ำตาลละลาย - พอน้ำตาลละลายดีแล้วยกลง ทิ้งไว้สักครู่ให้พอคลายร้อน แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง - เทลงในกระทะทองยกขึ้นตั้งไฟ ใส่กล้วยลงไป ใช้ไฟแรง กวนด้วยไม้พายกวนขนม จากนั้นลดไฟลงใช้ไฟอ่อน ใช้เวลาในการกวนประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง จนมีลักษณะข้นเหนียว - ค่อยๆ เทหัวกะทิลงทีละน้อย กวนให้เข้ากันจนกล้วยแห้งเหนียวพอปั้นได้ ยกลง เทใส่ถาดใช้ไม้คลึงหน้าขนมให้เรียบรอให้เย็นแล้วตัดเ