ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ราดหน้าเนื้อ



วันก่อนทำยำก้านคะน้าไป ส่วนยอดก็ทำราดหน้าให้แฟนทาน และสัญญาไว้ว่าจะเอาสูตรการทำราดหน้ามาฝาก แต่ก็แอบลืมวันนี้นึกขึ้นได้เลยรีบเอามาให้ดูยั่วน้ำลายกันดีกว่าค่ะ วันนั้นทำทั้งราดหน้ากุ้งและราดหน้าเนื้อ แต่ราดหน้าเนื้อน่ากินกว่าเยอะ เลยเอาราดหน้าเนื้อมาฝากละกัน มาดูวิธีทำราดหน้าเนื้อกันดีกว่าค่ะ



สิ่งที่ต้องเตรียม
ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ 200 กรัม
เนื้อวัว 100 กรัม
กระเทียมสับ 7 กลีบ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
ซอสหอย 1 ช้อนโต๊ะ
เต้าเจี้ยว 1 ช้อนชา
ยอดคะน้า 5ุ-6 ยอด (เด็ดเฉพาะยอดอ่อนหั่นเป็นท่อน)

เครื่องปรุงสำหรับหมักเนื้อ
ซีอิ้วขาว 1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
พริกไทยเม็ดตำละเอียด 5 เม็ด
ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
และเหล้าจีน 1/2 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ
- เริ่มจากการหมักเนื้อ โดยนำเนื้อวัวมาหั่นเป็นชิ้นบางๆ แล้วนำไปหมักกับซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย พริกไทย ซอสหอย และเหล้าจีน หมักทิ้งไว้ ซัก 1 ชั่วโมง

- จากนั้นนำเส้นก๋วยเตี๋ยวมาลอกเป็นแผ่นแล้วฉีกให้เป็นชิ้นก่อน แล้วตั้งกระทหะใส่น้ำมันพืชลงเล็กน้อย ใช้ไฟแรงให้ร้อนมากๆ จากนั้นนำเส้นลงผัดให้หอมเหยาะซีอิ๊วดำลงนิดหน่อย แล้วตักขึ้นจัดใส่จานเตรียมไว้

- ยกกระทะขึ้นตั้งไฟใส่น้ำมันพอร้อน เอากระเทียมสับลงเจียวให้เหลืองหอม จึงใส่เนื้อวัว
ที่หมักเตรียมเอาลงไปผัด ปรุงรสด้วย น้ำปลา ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย เต้าเจี๊ยว น้ำตาลทราย ผัดเร็วๆ เติมน้ำซุปลงเล็กน้อย ใส่ยอดคะน้า

- ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำเปล่า แล้วใส่ลงไป คนให้เข้ากัน ตักราดหน้าบนเส้นก๋วยเตี๋ยวที่เตรียมไว้ในจาน เอาพริกไทยป่นโรย ยกเสิรฟทันที

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แป้งสาลี

หลายๆท่านที่เคยทำขนมทำเบเกอรี่มาก็ไม่รู้ซักกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ต้อง มีส่วนประกอบของแป้งสาลี เช่น ขนมปัง ขนมเค้ก พิซซ่า บะหมี่ คุ้กกี้ ฯลฯ อาหารต่างๆ เหล่านี้ล้วนทำมาจากแป้งสาลีทั้งสิ้น แป้งสาลีจึงถือว่าเป็นวัตถุดิบที่มีบทบาทสำคัญมากต่อการปรุงอาหารในปัจจุบัน แต่จะมีคนซักกี่คนที่จะรู้จักที่มาที่ไปของแป้งสาลีดีพอ วันนี้เลยมีเรื่องเกี่ยวกับแป้งสาลีมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อที่จะได้รู้จักแป้งสาลีกันมากขึ้น ในสมัยก่อนแป้งสาลีนั้นเราได้จากการบดหรือโม่เมล็ดข้าวให้ได้แป้ง โดยใช้โม่หินเมื่อเวลาผ่านมามนุษย์สมัยก่อนได้รู้จักการผสมแป้ง และน้ำเข้าด้วยกันจนกลายเป็นก้อนโด(Dough)และนำก้อนโดนี้ ไปอบบนหินเผาไฟก้อนโดนี้จะมีลักษณะแข็งภายนอก เนื้อในนุ่ม ซึ่งเหมือนกับการอบขนมปังทั่วๆ ไปนั่นเอง คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่เราควรจะมารู้จักแป้งสาลีให้ดีขึ้น เพื่อที่จะได้นำแป้งสาลีไปใช้ได้ถูกต้องกับการทำอาหาร แต่ละชนิด แป้งสาลีมีคุณสมบัติแตกต่างจากแป้งชนิดอื่นคือ เมื่อผสมน้ำในอัตราส่วนที่ถูกต้องโปรตีนในแป้งจะจับตัวกัน เกิดเป็นก้อนโด (Dough) มีลักษณะเหนียวแต่ยืดหยุ่นได้ สามารถที่จะเก็บแก๊สไว้ได้ ซึ่งจะเป็นโครง

ไข่ปลาทอด

ไข่ปลาก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าทานบ่อยไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เพราะคอเลสเตอรอลสูงมากๆ แต่มันก็อดใจไม่ไหว มันอร่อย คราวที่แล้วก็ทำเมนู ต้มยำไข่ปลา ไปแล้ว คราวนี้ก็ไข่ปลาอีกแล้วแต่เป็นเมนูไข่ปลาทอดแทน ไม่ไหวแล้วขอตัวไปทานไข่ปลาทอดก่อนดีกว่า สิ่งที่้ต้องเตรียม ไข่ปลายี่สก 400 กรัม กระเทียม 7 กลีบ พริกไทย 1/2 ช้อนชา ซีอิ้วชาว 1 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส 1 ช้อนชา แป้งโกกิ 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำไข่ปลาทอด - แกะเปลือกกระเทียมออก ทุบกระเทียมหยาบๆ แล้วสับให้ละเอียด - ล้างไข่ปลาแล้วฉีกพวงไข่ปลาให้แยกออกจากกัน (ส่วนที่เป็นเยื่อหุ้มไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกว่าอะไร) - มักไข่ปลากันกระเทียม พริกไทย ซีอิ้วขาว ผงปรุงรส หมักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที - ละลายแป้งโกกิกับน้ำเย็นให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเทใส่ชามที่หมักไข่ปลา ค่อยๆ คนให้เข้ากัน - ตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับทอด ปรับไฟกลางถึงอ่อน พอร้อนใส่ไข่ปลาลงไปทอด - ขณะที่ทอดห้ามคน รอให้ข้างล่างสุกกรอบก่อนค่อยกลับอีกด้านลงไปทอดให้เหลืองกรอบทั้งสองด้าน จึงตักพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน - จัดใส่จานเสิร์ฟทานกับผักสดและพริกน้ำปลาแซ่บหลายเด้อ

กล้วยกวนสูตรโบราณ

มีกล้วยหอมสุกงอมอยู่ จะเอาทิ้งก็ใช่ที่ ซื้อมาทำไมซื้อมาแล้วไม่กิน เสียดายของ กล้วยน้ำว้าเราก็มีเอามาทำกล้วยกวนทานกันดีกว่าไม่เสียของแถมอร่อยอีกต่างหาก เคยมีคนสอนทำตั้งนานแล้ว เค้าบอกว่าเป็นกล้วยกวนสูตรโบราณด้วยนะเออ มาดูวิธีทำกล้วยกวนสูตรโบราณกันดีกว่าค่ะ สิ่งที่ต้องเตรียม กล้วยน้ำว้าสุกงอม 10 ลูก กล้วยหอมสุกงอม 5 ลูก มะพร้าวขูด 500 กรัม น้ำตาลทราย 200 กรัม เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ วิธีทำ - ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าและกล้วยหอม หั่นเป็นชิ้นแล้วปั่นให้ละเอียด เตรียมไว้ - คั้นมะพร้าวกับน้ำอุ่นให้ได้น้ำกะทิ 2 ถ้วย หางกะทิ 2 ถ้วย - นำหัวกะทิ ตั้งไฟอ่อนเคี่ยวให้เป็นน้ำมัน ยกลงพักทิ้งไว้ - ผสมหางกะทิ กับน้ำตาลทราย ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟกลางให้น้ำตาลละลาย - พอน้ำตาลละลายดีแล้วยกลง ทิ้งไว้สักครู่ให้พอคลายร้อน แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง - เทลงในกระทะทองยกขึ้นตั้งไฟ ใส่กล้วยลงไป ใช้ไฟแรง กวนด้วยไม้พายกวนขนม จากนั้นลดไฟลงใช้ไฟอ่อน ใช้เวลาในการกวนประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง จนมีลักษณะข้นเหนียว - ค่อยๆ เทหัวกะทิลงทีละน้อย กวนให้เข้ากันจนกล้วยแห้งเหนียวพอปั้นได้ ยกลง เทใส่ถาดใช้ไม้คลึงหน้าขนมให้เรียบรอให้เย็นแล้วตัดเ