ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กระท้อนลอยแก้ว


วันนี้ไปตลาดผลไม้ ได้ผลไม้ติดมือกลับมาบ้านเยอะแยะเลย ที่ถูกใจได้กระท้อนปุยฝ้ายมาด้วย ไม่รู้ว่าเป็นกระท้อนหลงฤดูหรือเปล่า โดยปกติแล้วช่วงนี้ไม่น่าจะมีกระท้อนแล้วนะ เลยรีบลงมือทำ กระท้อนลอยแก้ว มาทานแก้อาการร้อนอกร้อนใจดีกว่า ตามเข้าในครัวเลยค่ะจะได้โชว์สูตรการทำกระท้อนลอยแก้ว













สิ่งที่ต้องเตรียม

กระท้อนปุยฝ้าย 3 ลูก
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
เกลือป่น 2ช้อนโต๊ะ
น้ำต้มสุก 2 ถ้วย
น้ำสะอาด 1/2 ถ้วย

วิธีทำกระท้อนลอยแก้ว

- เริ่มจากใส่เกลือป่นลงไปในน้ำต้มสุก คนให้เกลือละลาย และทิ้งไว้ให้เย็น
- ผ่ากระท้อนเป็นสองซีก ๆ ควักเอามล็ดออกแล้วปลอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นตามต้องการ ถ้าใครมีฝีมือในการสลักเสลา ก็โชว์ฝีมือได้เลยงานนี้ แล้วนำลงแช่ในน้ำเกลือที่เตรียมไว้ (ขั้นตอนนี้รีบทำให้เร็วๆ หน่อยค่ะ เดี๋ยวกระท้อนจะดำไม่ขาวอวบถูกใจคุณพ่อบ้าน)
- แช่น้ำเกลือไว้ซักประมาณ 1 ชั่วโมงก็พอ เพราะเลือกกระท้อนที่แก่จัดแล้วเนื้อจะไม่เปรี้ยว ไม่ฝาดมาก
- ในระหว่างแช่กระท้อนในน้ำเกลือทิ้งไว้ ก็มาลงมือทำน้ำเชื่อม โดยผสมน้ำตาลกับน้ำสะอาด เข้าด้วยกัน และยกตั้งไฟคนให้น้ำตาลละลาย แล้วใช้ผ้าขาวบางกรองเอาเศษผงออก
- แล้วนำไปเคี่ยวต่ออีกที จนได้น้ำเชื่อมที่ข้นกำลังดีก็เทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ ชิมดูให้ได้รสชาติพอใจ ให้หวานมากๆ หน่อยเพราะเวลาน้ำเชื่อมเจอเนื้อกระท้อนจะทำให้มีรสเปรี้ยวออกมาเจือ แล้วตักเกลือเติมลงไปเล็กน้อย พอเค็ม ทิ้งน้ำเชื่อมไว้ให้เย็น
- พอน้ำเชื่อมเย็นได้ที่แล้ว ให้ช้อนกระท้อนขึ้นจากน้ำเกลือทิ้งให้สะเด็ดน้ำ และใส่ลงในชามน้ำเชื่อม คนให้เข้ากัน ให้พอมีรสหวานเค็มนิดๆ ก็เป็นอันว่าใช้ได้
- จากนั้นนำส่วนผสมไปแช่ทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง ทีนี้เราก็จะได้ กระท้อนลอยแก้ว ที่สุดแสนอร่อย เวลาจะทานก็แค่ตักใส่ถ้วยเติมน้ำแข็งทุบลงไป กินแล้วชื่นใจ คลายความร้อนรุ่มได้ทั้งกายและใจเลยละค่ะ

ความคิดเห็น

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า
ขอบคุณมาก ๆ นะครับ
gclub กล่าวว่า
ยังไม่เคยทานอ่ะ..แฮๆ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แป้งสาลี

หลายๆท่านที่เคยทำขนมทำเบเกอรี่มาก็ไม่รู้ซักกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ต้อง มีส่วนประกอบของแป้งสาลี เช่น ขนมปัง ขนมเค้ก พิซซ่า บะหมี่ คุ้กกี้ ฯลฯ อาหารต่างๆ เหล่านี้ล้วนทำมาจากแป้งสาลีทั้งสิ้น แป้งสาลีจึงถือว่าเป็นวัตถุดิบที่มีบทบาทสำคัญมากต่อการปรุงอาหารในปัจจุบัน แต่จะมีคนซักกี่คนที่จะรู้จักที่มาที่ไปของแป้งสาลีดีพอ วันนี้เลยมีเรื่องเกี่ยวกับแป้งสาลีมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อที่จะได้รู้จักแป้งสาลีกันมากขึ้น ในสมัยก่อนแป้งสาลีนั้นเราได้จากการบดหรือโม่เมล็ดข้าวให้ได้แป้ง โดยใช้โม่หินเมื่อเวลาผ่านมามนุษย์สมัยก่อนได้รู้จักการผสมแป้ง และน้ำเข้าด้วยกันจนกลายเป็นก้อนโด(Dough)และนำก้อนโดนี้ ไปอบบนหินเผาไฟก้อนโดนี้จะมีลักษณะแข็งภายนอก เนื้อในนุ่ม ซึ่งเหมือนกับการอบขนมปังทั่วๆ ไปนั่นเอง คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่เราควรจะมารู้จักแป้งสาลีให้ดีขึ้น เพื่อที่จะได้นำแป้งสาลีไปใช้ได้ถูกต้องกับการทำอาหาร แต่ละชนิด แป้งสาลีมีคุณสมบัติแตกต่างจากแป้งชนิดอื่นคือ เมื่อผสมน้ำในอัตราส่วนที่ถูกต้องโปรตีนในแป้งจะจับตัวกัน เกิดเป็นก้อนโด (Dough) มีลักษณะเหนียวแต่ยืดหยุ่นได้ สามารถที่จะเก็บแก๊สไว้ได้ ซึ่งจะเป็นโครง

ไข่ปลาทอด

ไข่ปลาก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าทานบ่อยไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เพราะคอเลสเตอรอลสูงมากๆ แต่มันก็อดใจไม่ไหว มันอร่อย คราวที่แล้วก็ทำเมนู ต้มยำไข่ปลา ไปแล้ว คราวนี้ก็ไข่ปลาอีกแล้วแต่เป็นเมนูไข่ปลาทอดแทน ไม่ไหวแล้วขอตัวไปทานไข่ปลาทอดก่อนดีกว่า สิ่งที่้ต้องเตรียม ไข่ปลายี่สก 400 กรัม กระเทียม 7 กลีบ พริกไทย 1/2 ช้อนชา ซีอิ้วชาว 1 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส 1 ช้อนชา แป้งโกกิ 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำไข่ปลาทอด - แกะเปลือกกระเทียมออก ทุบกระเทียมหยาบๆ แล้วสับให้ละเอียด - ล้างไข่ปลาแล้วฉีกพวงไข่ปลาให้แยกออกจากกัน (ส่วนที่เป็นเยื่อหุ้มไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกว่าอะไร) - มักไข่ปลากันกระเทียม พริกไทย ซีอิ้วขาว ผงปรุงรส หมักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที - ละลายแป้งโกกิกับน้ำเย็นให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเทใส่ชามที่หมักไข่ปลา ค่อยๆ คนให้เข้ากัน - ตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับทอด ปรับไฟกลางถึงอ่อน พอร้อนใส่ไข่ปลาลงไปทอด - ขณะที่ทอดห้ามคน รอให้ข้างล่างสุกกรอบก่อนค่อยกลับอีกด้านลงไปทอดให้เหลืองกรอบทั้งสองด้าน จึงตักพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน - จัดใส่จานเสิร์ฟทานกับผักสดและพริกน้ำปลาแซ่บหลายเด้อ

แกงกะหล่ำปลีใส่หมู

ไปเที่ยวที่บ้านกลับมาคราวนี้ เราแบกผักสดมาจากบ้านเยอะมาก มีทั้งลูกขนุนอ่อน ถั่วฝักยาว พริกหนุ่ม กระเทียมสด มะเขือเทศ แล้วยังมีกะหล่ำปลีอีกด้วย ทุุกอย่างเป็นผลิตผลจากสวนของน้าซึ่งเป็นน้องชายของแม่ทั้งนั้น วันนี้เราเลยลงมือทำแกงกะหล่ำปลีใส่หมู ซึ่งเป็นสูตรอาหารของชาวเหนือแท้ๆ มาค่ะมาดูว่าแกงกะหล่ำปลีใส่หมูของสาวเหนือเช่นเราทำกันยังไงน๊า สิ่งที่ต้องเตรียม กะหล่ำปลีซอยหยาบๆ 1 หัว (ประมาณ 500 กรัม) เนื้อหมูหั่นชิ้นพอดีคำ 250 กรัม มะเขือเทศสีดาผ่าครึ่ง 5-6 ลูก พริกขี้หนูแห้ง 12 เม็ด กระเทียม 7 กลีบ หอมแดง 2 หัว เกลือป่น 1/2 ช้อนชา กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ ต้นหอมผักชีซอย 2-3 ต้น วิธีทำแกงกะหล่ำใส่หมู - เรามาลงมือตำน้ำพริกกันก่อนค่ะ โดยนำพริกแห้ง หอมแดง กระเทียม เกลือป่น และกะปิ ใส่ครกตำให้ละเอียด - เอาหมูใส่ลงไปในหม้อ ตักน้ำพริกแกงที่ตำไว้ใส่ตามลงไป - ใช้น้ำเปล่าล้างครกให้เกลี้ยง เทใส่ลงไปในหม้อ คนให้พริกแกงละลาย ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ คั่วไปเรื่อยๆ จนน้ำเริ่มแห้ง ทีนี้ก็ใส่น้ำลงไปกะให้ท่วมเนื้อหมูและกะหล่ำปลี ตั้งทิ้งไว้รอให้เดือด - พอน้ำในหม้อเดือด ก็ใ่ส่กะหล่ำปลีลงไป ใช้ทัพพีกดเบาๆ ให