ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

แกงคั่วซี่โครงหมูอ่อน

อยากกินอะไรแซ่บๆ ต้องเมนูนี้เลยค่ะ แกงคั่วซี่โครงหมูอ่อน ปกติเราชอบซื้อร้านอาหารใต้ร้านเจ้าประจำ แต่เดี๋ยวนี้ขับรถไปวนหาหลายรอบแล้วไม่เจอ ไม่รู้ว่าย้ายไปขายแถวไหน วันนี้เลยลงมือทำเองซะเลย ผลออกมาอร่อยเว่อร์เลยค่ะ มาค่ะมาเข้าครัวทำแกงคั่วซี่โครงหมูอ่อนกินกันดีกว่าค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม
ซี่โครงหมูอ่อน 400 กรัม
น้ำพริกแกงคั่ว 70 กรัม
มะเขือเปราะ 5-6 ลูก
มะเขือพวง 1/3 ถ้วย
ใบมะกรูด 5 ใบ
ผักชีฝรั่ง 3-4 ใบ
พริกชีฟ้า 3 เม็ด
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันสำหรับผัด
น้ำเปล่า

วิธีทำแกงคั่วซี่โครงหมู
- เริ่มจากนำซี่โครงหมูไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วผึ่งไว้ให้หมาด หรือจะใช้กระดาษซับน้ำออกไปบ้างก็ได้ค่ะ
- เสร็จแล้วสับซี่โครงหมูให้เป็นชิ้นๆ ขนาดพอดีคำ
- นำพริกชี้ฟ้ามาหั่นแฉลบ ผักชีฝรั่งหั่นท่อนๆ ใบมะกรูดก็ฉีกเตรียมไว้
- มะเขือเปราะล้างน้ำแล้วผ่าเป็นชิ้นๆ ใส่ลงไปในถ้วยที่มีน้ำ มะเขือจะได้ไม่ดำ แล้วเด็ดมะเขือพวงใส่รวมลงไปเลยก็ได้ค่ะ
- ทีนี้ก็มาโขลกน้ำพริกแกงคั่วกันค่ะ เราใช้ ขมิ้นฝานเป็นแว่นๆ (ใส่ลงไปเยอะๆ เลยค่ะ) ตะไคร้ซอย ข่าซอย พริกแห้ง กระเทียม หอมแดง เกลือป่น และกะปิ โขลกทุกอย่างให้ละเอียดเข้ากัน ตักใส่ถ้วยเตรียมไว้
- ยกกระทะใส่น้ำมันตั้งไฟ พอร้อนก็ใส่น้ำพริกแกงลงไปผัดให้หอม
- ใส่ซี่โครงหมูลงไป ผัดให้เข้ากัน ผัดจนหมูเริ่มหด
- ทีนี้เราก็ใส่น้ำเปล่าลงไปให้ท่วมซี่โครงหมูเลยค่ะ เพราะต้องเคี่ยวทิ้งไว้นานจนกว่าเนื้อหมูจะสุกนุ่ม ปรับใช้ไฟอ่อน
- พอหมูสุกนุ่มดีแล้วก็ใส่มะเขือเปราะ และมะเขือพวงลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่พริกชี้ฟ้า ผักชีฝรั่ง และใบมะกรูดฉีกคนให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักแกงคั่วซี่โครงหมูใส่ถ้วยยกเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อนๆ ได้เลยค่ะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แป้งสาลี

หลายๆท่านที่เคยทำขนมทำเบเกอรี่มาก็ไม่รู้ซักกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ต้อง มีส่วนประกอบของแป้งสาลี เช่น ขนมปัง ขนมเค้ก พิซซ่า บะหมี่ คุ้กกี้ ฯลฯ อาหารต่างๆ เหล่านี้ล้วนทำมาจากแป้งสาลีทั้งสิ้น แป้งสาลีจึงถือว่าเป็นวัตถุดิบที่มีบทบาทสำคัญมากต่อการปรุงอาหารในปัจจุบัน แต่จะมีคนซักกี่คนที่จะรู้จักที่มาที่ไปของแป้งสาลีดีพอ วันนี้เลยมีเรื่องเกี่ยวกับแป้งสาลีมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อที่จะได้รู้จักแป้งสาลีกันมากขึ้น ในสมัยก่อนแป้งสาลีนั้นเราได้จากการบดหรือโม่เมล็ดข้าวให้ได้แป้ง โดยใช้โม่หินเมื่อเวลาผ่านมามนุษย์สมัยก่อนได้รู้จักการผสมแป้ง และน้ำเข้าด้วยกันจนกลายเป็นก้อนโด(Dough)และนำก้อนโดนี้ ไปอบบนหินเผาไฟก้อนโดนี้จะมีลักษณะแข็งภายนอก เนื้อในนุ่ม ซึ่งเหมือนกับการอบขนมปังทั่วๆ ไปนั่นเอง คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่เราควรจะมารู้จักแป้งสาลีให้ดีขึ้น เพื่อที่จะได้นำแป้งสาลีไปใช้ได้ถูกต้องกับการทำอาหาร แต่ละชนิด แป้งสาลีมีคุณสมบัติแตกต่างจากแป้งชนิดอื่นคือ เมื่อผสมน้ำในอัตราส่วนที่ถูกต้องโปรตีนในแป้งจะจับตัวกัน เกิดเป็นก้อนโด (Dough) มีลักษณะเหนียวแต่ยืดหยุ่นได้ สามารถที่จะเก็บแก๊สไว้ได้ ซึ่งจะเป็นโครง

ไข่ปลาทอด

ไข่ปลาก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าทานบ่อยไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เพราะคอเลสเตอรอลสูงมากๆ แต่มันก็อดใจไม่ไหว มันอร่อย คราวที่แล้วก็ทำเมนู ต้มยำไข่ปลา ไปแล้ว คราวนี้ก็ไข่ปลาอีกแล้วแต่เป็นเมนูไข่ปลาทอดแทน ไม่ไหวแล้วขอตัวไปทานไข่ปลาทอดก่อนดีกว่า สิ่งที่้ต้องเตรียม ไข่ปลายี่สก 400 กรัม กระเทียม 7 กลีบ พริกไทย 1/2 ช้อนชา ซีอิ้วชาว 1 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส 1 ช้อนชา แป้งโกกิ 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำไข่ปลาทอด - แกะเปลือกกระเทียมออก ทุบกระเทียมหยาบๆ แล้วสับให้ละเอียด - ล้างไข่ปลาแล้วฉีกพวงไข่ปลาให้แยกออกจากกัน (ส่วนที่เป็นเยื่อหุ้มไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกว่าอะไร) - มักไข่ปลากันกระเทียม พริกไทย ซีอิ้วขาว ผงปรุงรส หมักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที - ละลายแป้งโกกิกับน้ำเย็นให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเทใส่ชามที่หมักไข่ปลา ค่อยๆ คนให้เข้ากัน - ตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับทอด ปรับไฟกลางถึงอ่อน พอร้อนใส่ไข่ปลาลงไปทอด - ขณะที่ทอดห้ามคน รอให้ข้างล่างสุกกรอบก่อนค่อยกลับอีกด้านลงไปทอดให้เหลืองกรอบทั้งสองด้าน จึงตักพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน - จัดใส่จานเสิร์ฟทานกับผักสดและพริกน้ำปลาแซ่บหลายเด้อ

กล้วยกวนสูตรโบราณ

มีกล้วยหอมสุกงอมอยู่ จะเอาทิ้งก็ใช่ที่ ซื้อมาทำไมซื้อมาแล้วไม่กิน เสียดายของ กล้วยน้ำว้าเราก็มีเอามาทำกล้วยกวนทานกันดีกว่าไม่เสียของแถมอร่อยอีกต่างหาก เคยมีคนสอนทำตั้งนานแล้ว เค้าบอกว่าเป็นกล้วยกวนสูตรโบราณด้วยนะเออ มาดูวิธีทำกล้วยกวนสูตรโบราณกันดีกว่าค่ะ สิ่งที่ต้องเตรียม กล้วยน้ำว้าสุกงอม 10 ลูก กล้วยหอมสุกงอม 5 ลูก มะพร้าวขูด 500 กรัม น้ำตาลทราย 200 กรัม เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ วิธีทำ - ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าและกล้วยหอม หั่นเป็นชิ้นแล้วปั่นให้ละเอียด เตรียมไว้ - คั้นมะพร้าวกับน้ำอุ่นให้ได้น้ำกะทิ 2 ถ้วย หางกะทิ 2 ถ้วย - นำหัวกะทิ ตั้งไฟอ่อนเคี่ยวให้เป็นน้ำมัน ยกลงพักทิ้งไว้ - ผสมหางกะทิ กับน้ำตาลทราย ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟกลางให้น้ำตาลละลาย - พอน้ำตาลละลายดีแล้วยกลง ทิ้งไว้สักครู่ให้พอคลายร้อน แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง - เทลงในกระทะทองยกขึ้นตั้งไฟ ใส่กล้วยลงไป ใช้ไฟแรง กวนด้วยไม้พายกวนขนม จากนั้นลดไฟลงใช้ไฟอ่อน ใช้เวลาในการกวนประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง จนมีลักษณะข้นเหนียว - ค่อยๆ เทหัวกะทิลงทีละน้อย กวนให้เข้ากันจนกล้วยแห้งเหนียวพอปั้นได้ ยกลง เทใส่ถาดใช้ไม้คลึงหน้าขนมให้เรียบรอให้เย็นแล้วตัดเ