ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กระท้อนทรงเครื่อง



ช่วงนี้เป็นช่วงที่กระท้อนแก่ทานได้แล้วหรือเปล่าน๊า ไม่แน่ใจ แต่ไปทางไหนก็เห็นแต่มีกระท้อนลูกโตๆ วางขายเพียบเลย แต่ทำไมที่สวนของเราถึงยังไม่เห็นจะโตเลย ลูกเล็กๆ เท่าลูกปิงปองเอง บางลูกเท่าเม็ดลำใยเอง เราเลยต้องเสียตังค์ซื้อกระท้อนมาจากตลาดมาตั้ง 6 ลูกแนะลูกบักเอ๊กเลย กะว่าจะทานให้หายอยากไปเลย (ไม่ง้อกระท้อนในสวนก็ได้ รอชั้นทานจนเบื่อก่อนค่อยสุกก็แล้วกัน รับรองชั้นไม่แลเลยล่ะ อิอิ มีเคือง) คิดเมนูกระท้อนแสนอร่อยไว้ตั้งหลายเมนู เดี๋ยวจะค่อยๆ ทยอยนำออกมาเสนอทีละเมนู งั้นวันนี้ทานกระท้อนทรงเครื่องไปก่อนละกัน เปรี้ยวปากแล้วใช่มั๊ยล่ะ ไปค่ะเข้าครัวไปทำกระท้อนทรงเครื่องกันเลยค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม

กระท้อนลูกใหญ่ๆ 1 ลูก
มะพร้าวคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ
กุ้งแห้งตำ 3 ช้อนโต๊ะ
ถั่วลิสงคั่วบุบ 2 ช้อนโต๊ะ
พริกแห้งป่น 1 1/2 ช้อนชา
เกลือป่น 1 ช้อนชา

ส่วนผสมของน้ำเชื่อม

น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

- ปอกเปลือกกระท้อนออกให้หนาสักหน่อย พยายามปอกผิวให้เรียบจะได้สวย เสร็จแล้วนำไปแช่น้ำเกลือไว้สักครู่ประมาณ 10 นาทีเพื่อเนื้อกระท้อนจะได้ไม่ดำไงคะ
- จากนั้นเอาขึ้นมาบั้งตามแนวตรงของลูกกระท้อนเป็นริ้วๆ รอบลูก ไม่ต้องหนามาก แช่น้ำเกลือทิ้งไว้อีกประมาณ 20-30 นาที เพื่อให้ขับความเปรี้ยวของกระท้อนออก
- ผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำเปล่า น้ำปลา ลงในกระทะ แล้วตั้งไฟอ่อน เคี่ยวจนเหนียว เหนียวแบบเหนียวหนึบและนะคะ จากนั้นยกลงพักไว้ให้เย็น (ถ้าใครชอบทานกะปิก็ใส่ลงไปด้วยก็ได้ เพราะเห็นสูตรที่จิ๊กเค้ามาเค้าใส่กะิปิด้วย แต่เราไม่ชอบตอนทำเลยไม่ใส่)
- เอากระท้อนขึ้นจากชามแช่น้ำเกลือ ใช้มือบีบกระท้อนเบาๆ แล้วพักเพื่อให้สะเด็ดน้ำสักครู่
- จัดใส่จาน กดตรงกลางของกระท้อนลง เพื่อให้กลีบโดยรอบบานออกมา (ไม่รู้เค้าเรียกอย่างนี้หรือเปล่า เพื่อที่น้ำเชื่อมจะซึมเข้าโดยง่ายไงคะ) โรยหน้าด้วย มะพร้าวคั่ว กุ้งแห้งตำ ถั่วลิสงคั่วบุบ และพริกแห้งป่น จากนั้นก็ราดน้ำเชื่อมลงไปเลยค่ะ แล้วรีบยกเสิรฟเลยค่ะ (เพราะทนไม่ไหวแล้วน้ำลายจะหกค่ะ)

หมายเหตุ
ในส่วนของมะพร้าวคั่ว กุ้งแห้ง ถั่วลิสงคั่วและพริกป่น ถ้าใครชอบทานมากทานน้อยก็ลดเพิ่มตามความพอใจนะคะไม่ใช่สูตรตายตัว เอาตามความชอบก้อแล้วกันค่ะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แป้งสาลี

หลายๆท่านที่เคยทำขนมทำเบเกอรี่มาก็ไม่รู้ซักกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ต้อง มีส่วนประกอบของแป้งสาลี เช่น ขนมปัง ขนมเค้ก พิซซ่า บะหมี่ คุ้กกี้ ฯลฯ อาหารต่างๆ เหล่านี้ล้วนทำมาจากแป้งสาลีทั้งสิ้น แป้งสาลีจึงถือว่าเป็นวัตถุดิบที่มีบทบาทสำคัญมากต่อการปรุงอาหารในปัจจุบัน แต่จะมีคนซักกี่คนที่จะรู้จักที่มาที่ไปของแป้งสาลีดีพอ วันนี้เลยมีเรื่องเกี่ยวกับแป้งสาลีมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อที่จะได้รู้จักแป้งสาลีกันมากขึ้น ในสมัยก่อนแป้งสาลีนั้นเราได้จากการบดหรือโม่เมล็ดข้าวให้ได้แป้ง โดยใช้โม่หินเมื่อเวลาผ่านมามนุษย์สมัยก่อนได้รู้จักการผสมแป้ง และน้ำเข้าด้วยกันจนกลายเป็นก้อนโด(Dough)และนำก้อนโดนี้ ไปอบบนหินเผาไฟก้อนโดนี้จะมีลักษณะแข็งภายนอก เนื้อในนุ่ม ซึ่งเหมือนกับการอบขนมปังทั่วๆ ไปนั่นเอง คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่เราควรจะมารู้จักแป้งสาลีให้ดีขึ้น เพื่อที่จะได้นำแป้งสาลีไปใช้ได้ถูกต้องกับการทำอาหาร แต่ละชนิด แป้งสาลีมีคุณสมบัติแตกต่างจากแป้งชนิดอื่นคือ เมื่อผสมน้ำในอัตราส่วนที่ถูกต้องโปรตีนในแป้งจะจับตัวกัน เกิดเป็นก้อนโด (Dough) มีลักษณะเหนียวแต่ยืดหยุ่นได้ สามารถที่จะเก็บแก๊สไว้ได้ ซึ่งจะเป็นโครง

ไข่ปลาทอด

ไข่ปลาก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าทานบ่อยไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เพราะคอเลสเตอรอลสูงมากๆ แต่มันก็อดใจไม่ไหว มันอร่อย คราวที่แล้วก็ทำเมนู ต้มยำไข่ปลา ไปแล้ว คราวนี้ก็ไข่ปลาอีกแล้วแต่เป็นเมนูไข่ปลาทอดแทน ไม่ไหวแล้วขอตัวไปทานไข่ปลาทอดก่อนดีกว่า สิ่งที่้ต้องเตรียม ไข่ปลายี่สก 400 กรัม กระเทียม 7 กลีบ พริกไทย 1/2 ช้อนชา ซีอิ้วชาว 1 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส 1 ช้อนชา แป้งโกกิ 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำไข่ปลาทอด - แกะเปลือกกระเทียมออก ทุบกระเทียมหยาบๆ แล้วสับให้ละเอียด - ล้างไข่ปลาแล้วฉีกพวงไข่ปลาให้แยกออกจากกัน (ส่วนที่เป็นเยื่อหุ้มไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกว่าอะไร) - มักไข่ปลากันกระเทียม พริกไทย ซีอิ้วขาว ผงปรุงรส หมักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที - ละลายแป้งโกกิกับน้ำเย็นให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเทใส่ชามที่หมักไข่ปลา ค่อยๆ คนให้เข้ากัน - ตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับทอด ปรับไฟกลางถึงอ่อน พอร้อนใส่ไข่ปลาลงไปทอด - ขณะที่ทอดห้ามคน รอให้ข้างล่างสุกกรอบก่อนค่อยกลับอีกด้านลงไปทอดให้เหลืองกรอบทั้งสองด้าน จึงตักพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน - จัดใส่จานเสิร์ฟทานกับผักสดและพริกน้ำปลาแซ่บหลายเด้อ

แกงกะหล่ำปลีใส่หมู

ไปเที่ยวที่บ้านกลับมาคราวนี้ เราแบกผักสดมาจากบ้านเยอะมาก มีทั้งลูกขนุนอ่อน ถั่วฝักยาว พริกหนุ่ม กระเทียมสด มะเขือเทศ แล้วยังมีกะหล่ำปลีอีกด้วย ทุุกอย่างเป็นผลิตผลจากสวนของน้าซึ่งเป็นน้องชายของแม่ทั้งนั้น วันนี้เราเลยลงมือทำแกงกะหล่ำปลีใส่หมู ซึ่งเป็นสูตรอาหารของชาวเหนือแท้ๆ มาค่ะมาดูว่าแกงกะหล่ำปลีใส่หมูของสาวเหนือเช่นเราทำกันยังไงน๊า สิ่งที่ต้องเตรียม กะหล่ำปลีซอยหยาบๆ 1 หัว (ประมาณ 500 กรัม) เนื้อหมูหั่นชิ้นพอดีคำ 250 กรัม มะเขือเทศสีดาผ่าครึ่ง 5-6 ลูก พริกขี้หนูแห้ง 12 เม็ด กระเทียม 7 กลีบ หอมแดง 2 หัว เกลือป่น 1/2 ช้อนชา กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ ต้นหอมผักชีซอย 2-3 ต้น วิธีทำแกงกะหล่ำใส่หมู - เรามาลงมือตำน้ำพริกกันก่อนค่ะ โดยนำพริกแห้ง หอมแดง กระเทียม เกลือป่น และกะปิ ใส่ครกตำให้ละเอียด - เอาหมูใส่ลงไปในหม้อ ตักน้ำพริกแกงที่ตำไว้ใส่ตามลงไป - ใช้น้ำเปล่าล้างครกให้เกลี้ยง เทใส่ลงไปในหม้อ คนให้พริกแกงละลาย ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ คั่วไปเรื่อยๆ จนน้ำเริ่มแห้ง ทีนี้ก็ใส่น้ำลงไปกะให้ท่วมเนื้อหมูและกะหล่ำปลี ตั้งทิ้งไว้รอให้เดือด - พอน้ำในหม้อเดือด ก็ใ่ส่กะหล่ำปลีลงไป ใช้ทัพพีกดเบาๆ ให