(Habitual Abortion)
ภาวะแท้งเป็นอาจิณหมายถึง มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นและแท้งบุตรติดต่อกันอย่างน้อย 3 ครั้ง ขึ้นไป จะถือว่าอาจมีความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ และควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดเพื่อการป้องกันและแก้ไข ไม่ให้เกิดการแท้งบุตรอีก อุบัติการณ์ของการแท้งบุตรต่อเนื่องในอายุต่างๆของแม่ โดยนับว่ามีการแท้งต่อเนื่องมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไป มีข้อมูลตามตารางแสดงดังนี้คือ
อายุของแม่ ( ปี ) โอกาสการแท้งต่อเนื่องเป็นร้อยละ
15-19 9.9
20-24 9.5
25-29 10.0
30-34 11.7
>35-39 17.7
40-44 33.8
44 หรือ มากกว่า 53.2
สำหรับสาเหตุที่พบได้บ่อยของการแท้งอย่างต่อเนื่อง คือ
1. สาเหตุ ที่เกิดจากความผิดปกติของหน่วยพันธุกรรมหรือที่เรียกว่าโครโมโซม (Chromosome) ขาด หรือเกิน หรือมีความผิดปกติในบางส่วนของตัวโครโมโซมบางตัว เป็นผลให้เกิดความผิดปกติในการเจริญเติบโตของตัวอ่อน และตัวอ่อนอาจตายไปไม่สามารถเจริญเติบโตได้จึงเกิดการแท้งบุตร มักพบเป็นสาเหตุหลักในผู้ป่วยที่แท้งบุตรหลายครั้งโดยเฉพาะในช่วงสามเดือน แรกของของการตั้งครรภ์
2. สาเหตุ ที่เกิดจากความผิดปกติของมดลูก มักเป็นความผิดปกติที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิดในการพัฒนารูปร่างของมดลูก ทำให้โพรงมดลูกมีขนาดเล็กมีผลต่อการขยายตัวของมดลูกในขณะตั้งครรภ์จึงทำให้ เกิดการแท้งบุตร
3. สาเหตุ ที่เกิดจากความผิดปกติของปากมดลูก โดยเกิดการอ่อนแอของกล้ามเนื้อของปากมดลูกทำให้ไม่สามารถอุ้มการตั้งครรภ์ ให้เจริญเติบโตจนครรภ์ครบกำหนดได้มักเป็นผลทำให้เกิดการแท้งบุตรในระยะไตร มาสที่สองของการตั้งครรภ์
4. สาเหตุ ที่เกิดจากเนื้องอกของมดลูก ซึ่งมีผลต่อการขยายตัวของโพรงมดลูกในขณะตั้งครรภ์ ทำให้เกิดการแท้งบุตรได้ง่ายขึ้น การตัดสินใจในการให้การรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดต้องมีการพิจารณาให้รอบคอบ เหมาะสม เพราะการผ่าตัดอาจทำให้โพรงมดลูกเสียรูปร่างหรือเกิดแผลเป็นจนไม่สามารถตั้ง ครรภ์ได้
5. สาเหตุ จากความผิดปกติของการผลิตฮอร์โมนจากรังไข่ โดยเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่มีความสำคัญต่อการฝังตัวของตัวอ่อนและการ เจริญเติบโตของตัวอ่อน จึงทำให้เกิดการแท้งบุตรขึ้น ความผิดปกติเช่นนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็อาจจะเกิดขึ้นอีกซ้ำๆถ้าหากไม่ได้รับ การวินิจฉัยที่ถูกต้องและการแก้ไขอย่างเหมาะสม
6. สาเหตุ จากโรคทางอายุรกรรมที่เป็นอยู่ก่อนแล้ว เช่น โรค Systemic lupus erythematosus (SLE) โรคต่อมไทรอยด์ที่ผลิตฮอร์โมนผิดปกติ ซึ่งโรคต่างๆเหล่านี้มีผลทำให้เกิดการแท้งบุตรได้บ่อยถ้าไม่ได้รับการรักษา ที่เหมาะสม
7. สาเหตุ ที่เนื่องมาจากภูมิคุ้มกันผิดปกติ โดยปกติแล้วภูมิคุ้มกันเหล่านี้เป็นภูมิคุ้มกันตัวเองต่อโรคต่างๆ เมื่อเกิดความผิดปกติของระบบนี้ จะทำให้เกิดภูมิต้านทานต่อเซลล์รกและ/หรือเซลล์ตัวอ่อน เนื่องจากภูมิต้านทานนั้นแปลผลว่าเซลล์รกและเซลล์เด็กเป็นเซลล์แปลกปลอม ในการรักษาภาวะนี้ต้องทำการลดภูมิต้านทานที่ผิดปกติเหล่านี้ด้วยยาหรือสาร ที่ลดปฏิกิริยาของภูมิต้านทานเหล่านั้น
การรักษาผู้ป่วยที่แท้งบุตร มักต้องการการตรวจหาสาเหตุแต่ละรายเป็นเฉพาะรายไป เมื่อ เกิดการแท้งบุตรต่อเนื่องสองครั้งขึ้นไปแนะนำให้ทำการตรวจหาสาเหตุ แม้ในบางครั้งก็ยากที่จะตรวจหาสาเหตุได้อย่างชัดเจน จากสถิติพบว่าเราหาสาเหตุได้ชัดเจนเพียงร้อยละ 50 ของผู้ป่วยในกลุ่มนี้ทั้งหมด แต่ในบางครั้งก็สามารถหาสาเหตุได้ง่าย และสามารถป้องกันหรือรักษาไม่ให้เกิดการแท้งครั้งต่อไปได้
ที่มา : http://www.perfectwomaninstitute.com
ภาวะแท้งเป็นอาจิณหมายถึง มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นและแท้งบุตรติดต่อกันอย่างน้อย 3 ครั้ง ขึ้นไป จะถือว่าอาจมีความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ และควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดเพื่อการป้องกันและแก้ไข ไม่ให้เกิดการแท้งบุตรอีก อุบัติการณ์ของการแท้งบุตรต่อเนื่องในอายุต่างๆของแม่ โดยนับว่ามีการแท้งต่อเนื่องมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไป มีข้อมูลตามตารางแสดงดังนี้คือ
อายุของแม่ ( ปี ) โอกาสการแท้งต่อเนื่องเป็นร้อยละ
15-19 9.9
20-24 9.5
25-29 10.0
30-34 11.7
>35-39 17.7
40-44 33.8
44 หรือ มากกว่า 53.2
สำหรับสาเหตุที่พบได้บ่อยของการแท้งอย่างต่อเนื่อง คือ
1. สาเหตุ ที่เกิดจากความผิดปกติของหน่วยพันธุกรรมหรือที่เรียกว่าโครโมโซม (Chromosome) ขาด หรือเกิน หรือมีความผิดปกติในบางส่วนของตัวโครโมโซมบางตัว เป็นผลให้เกิดความผิดปกติในการเจริญเติบโตของตัวอ่อน และตัวอ่อนอาจตายไปไม่สามารถเจริญเติบโตได้จึงเกิดการแท้งบุตร มักพบเป็นสาเหตุหลักในผู้ป่วยที่แท้งบุตรหลายครั้งโดยเฉพาะในช่วงสามเดือน แรกของของการตั้งครรภ์
2. สาเหตุ ที่เกิดจากความผิดปกติของมดลูก มักเป็นความผิดปกติที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิดในการพัฒนารูปร่างของมดลูก ทำให้โพรงมดลูกมีขนาดเล็กมีผลต่อการขยายตัวของมดลูกในขณะตั้งครรภ์จึงทำให้ เกิดการแท้งบุตร
3. สาเหตุ ที่เกิดจากความผิดปกติของปากมดลูก โดยเกิดการอ่อนแอของกล้ามเนื้อของปากมดลูกทำให้ไม่สามารถอุ้มการตั้งครรภ์ ให้เจริญเติบโตจนครรภ์ครบกำหนดได้มักเป็นผลทำให้เกิดการแท้งบุตรในระยะไตร มาสที่สองของการตั้งครรภ์
4. สาเหตุ ที่เกิดจากเนื้องอกของมดลูก ซึ่งมีผลต่อการขยายตัวของโพรงมดลูกในขณะตั้งครรภ์ ทำให้เกิดการแท้งบุตรได้ง่ายขึ้น การตัดสินใจในการให้การรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดต้องมีการพิจารณาให้รอบคอบ เหมาะสม เพราะการผ่าตัดอาจทำให้โพรงมดลูกเสียรูปร่างหรือเกิดแผลเป็นจนไม่สามารถตั้ง ครรภ์ได้
5. สาเหตุ จากความผิดปกติของการผลิตฮอร์โมนจากรังไข่ โดยเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่มีความสำคัญต่อการฝังตัวของตัวอ่อนและการ เจริญเติบโตของตัวอ่อน จึงทำให้เกิดการแท้งบุตรขึ้น ความผิดปกติเช่นนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็อาจจะเกิดขึ้นอีกซ้ำๆถ้าหากไม่ได้รับ การวินิจฉัยที่ถูกต้องและการแก้ไขอย่างเหมาะสม
6. สาเหตุ จากโรคทางอายุรกรรมที่เป็นอยู่ก่อนแล้ว เช่น โรค Systemic lupus erythematosus (SLE) โรคต่อมไทรอยด์ที่ผลิตฮอร์โมนผิดปกติ ซึ่งโรคต่างๆเหล่านี้มีผลทำให้เกิดการแท้งบุตรได้บ่อยถ้าไม่ได้รับการรักษา ที่เหมาะสม
7. สาเหตุ ที่เนื่องมาจากภูมิคุ้มกันผิดปกติ โดยปกติแล้วภูมิคุ้มกันเหล่านี้เป็นภูมิคุ้มกันตัวเองต่อโรคต่างๆ เมื่อเกิดความผิดปกติของระบบนี้ จะทำให้เกิดภูมิต้านทานต่อเซลล์รกและ/หรือเซลล์ตัวอ่อน เนื่องจากภูมิต้านทานนั้นแปลผลว่าเซลล์รกและเซลล์เด็กเป็นเซลล์แปลกปลอม ในการรักษาภาวะนี้ต้องทำการลดภูมิต้านทานที่ผิดปกติเหล่านี้ด้วยยาหรือสาร ที่ลดปฏิกิริยาของภูมิต้านทานเหล่านั้น
การรักษาผู้ป่วยที่แท้งบุตร มักต้องการการตรวจหาสาเหตุแต่ละรายเป็นเฉพาะรายไป เมื่อ เกิดการแท้งบุตรต่อเนื่องสองครั้งขึ้นไปแนะนำให้ทำการตรวจหาสาเหตุ แม้ในบางครั้งก็ยากที่จะตรวจหาสาเหตุได้อย่างชัดเจน จากสถิติพบว่าเราหาสาเหตุได้ชัดเจนเพียงร้อยละ 50 ของผู้ป่วยในกลุ่มนี้ทั้งหมด แต่ในบางครั้งก็สามารถหาสาเหตุได้ง่าย และสามารถป้องกันหรือรักษาไม่ให้เกิดการแท้งครั้งต่อไปได้
ที่มา : http://www.perfectwomaninstitute.com
ความคิดเห็น