ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

หอยเชลล์ผัดพริกแกง

เพื่อนโทรมาบอกว่าวันนี้จะเข้ามาเที่ยวที่บ้าน
ก่อนเข้าไปจะแวะซุปเปอร์ก่อน จะฝากซื้ออะไรมั๊ย คราวนี้ล่ะก็บอกให้จดเป็นบัญชีหางว่าวเลยล่ะ
เพราะไม่อยากขับรถเข้าไปซื้อเองในเมือง
เพราะช่วงนี้ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ออกไปไหน
ช่วยชาติประหยัดน้ำมันและประหยัดเงินในกระเป๋าเรา
ในรายการที่ฝากซื้อมีแตงญี่ปุ่นด้วย
แต่พอเพื่อนเอาของมาให้กลับไม่เห็นมีแตงญี่ปุ่น

กลายเป็นว่าเพื่อนหยิบผิด เลยได้ซูคินี่มาแทน
เลยได้เอามาทำเป็นส่วนประกอบหอยเชลล์
ผัดพริกแกงเลยดีกว่า
















สิ่งที่ต้องเตรียม
เนื้อหอยเชลล์ 200 กรัม
น้ำพริกแกงเผ็ด 1 ช้อนโต๊ะ
ขิงอ่อนซอย 30 กรัม
ซูคินี่ 30 กรัม
กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืชสำหรับผัด 3 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยดำป่น 1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1/4 ช้อนชา
น้ำซุป 3 ช้อนโต๊ะ
ผักชี สำหรับตกแต่ง

วิธีทำ
- ล้างเนื้อหอยเชลล์ ใส่ตะแกรงพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
- ล้างซูคินี่ให้สะอาด ผ่าครึ่งหั่นบางเตรียมไว้
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป 1 ช้อนโต๊ะ ใช้ไฟกลาง
ใส่พริกแกงลงไป ผัดจนพริกเครื่องแกงหอม
- จากนั้นใส่หอยเชลล์ลงผัด ใส่น้ำตาลลงไปคนให้เข้ากัน
ปิดไฟ ตักใส่จานพักไว้
- นำกระทะใบเดิมไม่ต้องล้าง ขึ้นตั้งไฟอีกรอบ
ใส่น้ำมันลงไปอีก 2 ช้อนโต๊ะ ใช้ไฟกลาง พอน้ำมันร้อน ใส่กระเทียมสับและขิงซอยลงไปผัดให้หอม
- จากนั้นใส่ซูคินีลงไป ผัดเร็วจนซูคินี่แค่สุกกรอบ จึงใส่หอยเชลล์ที่ผัดกับพริกแกง ใส่น้ำซุปลงไป
ผัดให้ส่วนผสมเข้ากันดีแล้วปิดไฟ
- ตักใส่จานโรยหน้าด้วยพริกไทยดำป่น
แต่งหน้าด้วยผักชี เสิรฟพร้อมข้าวเหนียวร้อนๆ




ความคิดเห็น

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า
น่ากินจังครับ เห็นแล้วหิวข้าวเลย

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แป้งสาลี

หลายๆท่านที่เคยทำขนมทำเบเกอรี่มาก็ไม่รู้ซักกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ต้อง มีส่วนประกอบของแป้งสาลี เช่น ขนมปัง ขนมเค้ก พิซซ่า บะหมี่ คุ้กกี้ ฯลฯ อาหารต่างๆ เหล่านี้ล้วนทำมาจากแป้งสาลีทั้งสิ้น แป้งสาลีจึงถือว่าเป็นวัตถุดิบที่มีบทบาทสำคัญมากต่อการปรุงอาหารในปัจจุบัน แต่จะมีคนซักกี่คนที่จะรู้จักที่มาที่ไปของแป้งสาลีดีพอ วันนี้เลยมีเรื่องเกี่ยวกับแป้งสาลีมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อที่จะได้รู้จักแป้งสาลีกันมากขึ้น ในสมัยก่อนแป้งสาลีนั้นเราได้จากการบดหรือโม่เมล็ดข้าวให้ได้แป้ง โดยใช้โม่หินเมื่อเวลาผ่านมามนุษย์สมัยก่อนได้รู้จักการผสมแป้ง และน้ำเข้าด้วยกันจนกลายเป็นก้อนโด(Dough)และนำก้อนโดนี้ ไปอบบนหินเผาไฟก้อนโดนี้จะมีลักษณะแข็งภายนอก เนื้อในนุ่ม ซึ่งเหมือนกับการอบขนมปังทั่วๆ ไปนั่นเอง คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่เราควรจะมารู้จักแป้งสาลีให้ดีขึ้น เพื่อที่จะได้นำแป้งสาลีไปใช้ได้ถูกต้องกับการทำอาหาร แต่ละชนิด แป้งสาลีมีคุณสมบัติแตกต่างจากแป้งชนิดอื่นคือ เมื่อผสมน้ำในอัตราส่วนที่ถูกต้องโปรตีนในแป้งจะจับตัวกัน เกิดเป็นก้อนโด (Dough) มีลักษณะเหนียวแต่ยืดหยุ่นได้ สามารถที่จะเก็บแก๊สไว้ได้ ซึ่งจะเป็นโครง

ไข่ปลาทอด

ไข่ปลาก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าทานบ่อยไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เพราะคอเลสเตอรอลสูงมากๆ แต่มันก็อดใจไม่ไหว มันอร่อย คราวที่แล้วก็ทำเมนู ต้มยำไข่ปลา ไปแล้ว คราวนี้ก็ไข่ปลาอีกแล้วแต่เป็นเมนูไข่ปลาทอดแทน ไม่ไหวแล้วขอตัวไปทานไข่ปลาทอดก่อนดีกว่า สิ่งที่้ต้องเตรียม ไข่ปลายี่สก 400 กรัม กระเทียม 7 กลีบ พริกไทย 1/2 ช้อนชา ซีอิ้วชาว 1 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส 1 ช้อนชา แป้งโกกิ 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำไข่ปลาทอด - แกะเปลือกกระเทียมออก ทุบกระเทียมหยาบๆ แล้วสับให้ละเอียด - ล้างไข่ปลาแล้วฉีกพวงไข่ปลาให้แยกออกจากกัน (ส่วนที่เป็นเยื่อหุ้มไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกว่าอะไร) - มักไข่ปลากันกระเทียม พริกไทย ซีอิ้วขาว ผงปรุงรส หมักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที - ละลายแป้งโกกิกับน้ำเย็นให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเทใส่ชามที่หมักไข่ปลา ค่อยๆ คนให้เข้ากัน - ตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับทอด ปรับไฟกลางถึงอ่อน พอร้อนใส่ไข่ปลาลงไปทอด - ขณะที่ทอดห้ามคน รอให้ข้างล่างสุกกรอบก่อนค่อยกลับอีกด้านลงไปทอดให้เหลืองกรอบทั้งสองด้าน จึงตักพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน - จัดใส่จานเสิร์ฟทานกับผักสดและพริกน้ำปลาแซ่บหลายเด้อ

กล้วยกวนสูตรโบราณ

มีกล้วยหอมสุกงอมอยู่ จะเอาทิ้งก็ใช่ที่ ซื้อมาทำไมซื้อมาแล้วไม่กิน เสียดายของ กล้วยน้ำว้าเราก็มีเอามาทำกล้วยกวนทานกันดีกว่าไม่เสียของแถมอร่อยอีกต่างหาก เคยมีคนสอนทำตั้งนานแล้ว เค้าบอกว่าเป็นกล้วยกวนสูตรโบราณด้วยนะเออ มาดูวิธีทำกล้วยกวนสูตรโบราณกันดีกว่าค่ะ สิ่งที่ต้องเตรียม กล้วยน้ำว้าสุกงอม 10 ลูก กล้วยหอมสุกงอม 5 ลูก มะพร้าวขูด 500 กรัม น้ำตาลทราย 200 กรัม เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ วิธีทำ - ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าและกล้วยหอม หั่นเป็นชิ้นแล้วปั่นให้ละเอียด เตรียมไว้ - คั้นมะพร้าวกับน้ำอุ่นให้ได้น้ำกะทิ 2 ถ้วย หางกะทิ 2 ถ้วย - นำหัวกะทิ ตั้งไฟอ่อนเคี่ยวให้เป็นน้ำมัน ยกลงพักทิ้งไว้ - ผสมหางกะทิ กับน้ำตาลทราย ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟกลางให้น้ำตาลละลาย - พอน้ำตาลละลายดีแล้วยกลง ทิ้งไว้สักครู่ให้พอคลายร้อน แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง - เทลงในกระทะทองยกขึ้นตั้งไฟ ใส่กล้วยลงไป ใช้ไฟแรง กวนด้วยไม้พายกวนขนม จากนั้นลดไฟลงใช้ไฟอ่อน ใช้เวลาในการกวนประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง จนมีลักษณะข้นเหนียว - ค่อยๆ เทหัวกะทิลงทีละน้อย กวนให้เข้ากันจนกล้วยแห้งเหนียวพอปั้นได้ ยกลง เทใส่ถาดใช้ไม้คลึงหน้าขนมให้เรียบรอให้เย็นแล้วตัดเ