ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

แกงส้มตูน

นึกอยากกินแกงส้มตูนมานานแล้ว แต่ไม่ได้กินซักทีเพราะแถวๆ บ้านหาซื้อยากมาก แต่วันนี้โชคดีเห็นมีวางขายอยู่เลยซื้อกลับมาบ้านด้วย ปกติจะแกงใส่ปลาช่อนหรือปลาดุำกจะอร่อยมาก บังเอิญในตู้เย็นมีปลาซาบะเหลืออยู่ตัวนึง แกงใส่ปลาซาบะก็ได้เนาะอร่อยเหมือนๆ กันค่ะ อ้อ! ลืมบอกไปตูนที่คนเหนือนำมาแกงก็คือคูนของคนภาคกลาง หรือออดิบของคนภาคใต้นั่นเองค่ะ เรามาลงมือทำแกงส้มตูนกินกันดีกว่าค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม
ก้านตูน 3 ก้าน
ปลาซาบะ 1 ตัว
พริกชี้ฟ้า 4-5 เม็ด
ขมิ้น 5 แว่น
ตะไคร้กซอย 2 ต้น
หอมแดง 3 หัว
กระเทียมไทย 1 หัว
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
แมงลักเด็ดใบ 1 ถ้วย

วิธีทำแกงส้มตูน
- นำก้านตูนมาล้างน้ำให้สะอาดทุกซอกมุมของก้านตูน เสร็จแล้วลอกเอาเปลือกด้านนอกออกให้หมด
- ตัดก้านตูนเป็นท่อนๆ ขนาดประมาณ 1.50 นิ้ว ถ้าก้านใหญ่ไปก็ผ่าครึ่งด้วยก็ดีค่ะ
- ทีนี้ก็ล้างปลาหั่นเป็นแว่นๆ เตรียมไว้
- ต่อไปก็มาตำน้ำพริกแกงกันค่ะ โดยนำตะไคร้ซอย ขมิ้นหั่นแว่น พริกชี้ฟ้า กระเทียม หอมแดง เกลือป่น และกะปิ ใส่ครกตำให้ละเอียด
- นำหม้อใส่น้ำยกขึ้นตั้งไฟ พอน้ำเดือดก็ใส่พริกแกงส้มลงไป
- พอน้ำในหม้อเดือดอีกครั้งเราก็ใส่ก้านตูนลงไป (ก้านตูนต้องบีบๆ ก่อนใส่ลงไปนะคะ เพื่อไล่ฟองอากาศออก) ใช้ทัพพีกดๆ ให้ก้านตูนยุบลงไป
- เสร็จแล้วใส่เนื้อปลาตามลงไปได้เลยค่ะ ไม่ต้องคนนะคะ เดี๋ยวจะเหม็นคาว
- พอปลาสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา และใส่ใบแมงลักลงไป คนให้เข้ากัน ปิดไฟ ใส่น้ำมะนาวลงไป คนให้เข้ากันอีกที ตักแกงส้มตูนใส่ถ้วยยกเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อนๆ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แป้งสาลี

หลายๆท่านที่เคยทำขนมทำเบเกอรี่มาก็ไม่รู้ซักกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ต้อง มีส่วนประกอบของแป้งสาลี เช่น ขนมปัง ขนมเค้ก พิซซ่า บะหมี่ คุ้กกี้ ฯลฯ อาหารต่างๆ เหล่านี้ล้วนทำมาจากแป้งสาลีทั้งสิ้น แป้งสาลีจึงถือว่าเป็นวัตถุดิบที่มีบทบาทสำคัญมากต่อการปรุงอาหารในปัจจุบัน แต่จะมีคนซักกี่คนที่จะรู้จักที่มาที่ไปของแป้งสาลีดีพอ วันนี้เลยมีเรื่องเกี่ยวกับแป้งสาลีมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อที่จะได้รู้จักแป้งสาลีกันมากขึ้น ในสมัยก่อนแป้งสาลีนั้นเราได้จากการบดหรือโม่เมล็ดข้าวให้ได้แป้ง โดยใช้โม่หินเมื่อเวลาผ่านมามนุษย์สมัยก่อนได้รู้จักการผสมแป้ง และน้ำเข้าด้วยกันจนกลายเป็นก้อนโด(Dough)และนำก้อนโดนี้ ไปอบบนหินเผาไฟก้อนโดนี้จะมีลักษณะแข็งภายนอก เนื้อในนุ่ม ซึ่งเหมือนกับการอบขนมปังทั่วๆ ไปนั่นเอง คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่เราควรจะมารู้จักแป้งสาลีให้ดีขึ้น เพื่อที่จะได้นำแป้งสาลีไปใช้ได้ถูกต้องกับการทำอาหาร แต่ละชนิด แป้งสาลีมีคุณสมบัติแตกต่างจากแป้งชนิดอื่นคือ เมื่อผสมน้ำในอัตราส่วนที่ถูกต้องโปรตีนในแป้งจะจับตัวกัน เกิดเป็นก้อนโด (Dough) มีลักษณะเหนียวแต่ยืดหยุ่นได้ สามารถที่จะเก็บแก๊สไว้ได้ ซึ่งจะเป็นโครง

แกงกะหล่ำปลีใส่หมู

ไปเที่ยวที่บ้านกลับมาคราวนี้ เราแบกผักสดมาจากบ้านเยอะมาก มีทั้งลูกขนุนอ่อน ถั่วฝักยาว พริกหนุ่ม กระเทียมสด มะเขือเทศ แล้วยังมีกะหล่ำปลีอีกด้วย ทุุกอย่างเป็นผลิตผลจากสวนของน้าซึ่งเป็นน้องชายของแม่ทั้งนั้น วันนี้เราเลยลงมือทำแกงกะหล่ำปลีใส่หมู ซึ่งเป็นสูตรอาหารของชาวเหนือแท้ๆ มาค่ะมาดูว่าแกงกะหล่ำปลีใส่หมูของสาวเหนือเช่นเราทำกันยังไงน๊า สิ่งที่ต้องเตรียม กะหล่ำปลีซอยหยาบๆ 1 หัว (ประมาณ 500 กรัม) เนื้อหมูหั่นชิ้นพอดีคำ 250 กรัม มะเขือเทศสีดาผ่าครึ่ง 5-6 ลูก พริกขี้หนูแห้ง 12 เม็ด กระเทียม 7 กลีบ หอมแดง 2 หัว เกลือป่น 1/2 ช้อนชา กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ ต้นหอมผักชีซอย 2-3 ต้น วิธีทำแกงกะหล่ำใส่หมู - เรามาลงมือตำน้ำพริกกันก่อนค่ะ โดยนำพริกแห้ง หอมแดง กระเทียม เกลือป่น และกะปิ ใส่ครกตำให้ละเอียด - เอาหมูใส่ลงไปในหม้อ ตักน้ำพริกแกงที่ตำไว้ใส่ตามลงไป - ใช้น้ำเปล่าล้างครกให้เกลี้ยง เทใส่ลงไปในหม้อ คนให้พริกแกงละลาย ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ คั่วไปเรื่อยๆ จนน้ำเริ่มแห้ง ทีนี้ก็ใส่น้ำลงไปกะให้ท่วมเนื้อหมูและกะหล่ำปลี ตั้งทิ้งไว้รอให้เดือด - พอน้ำในหม้อเดือด ก็ใ่ส่กะหล่ำปลีลงไป ใช้ทัพพีกดเบาๆ ให

กล้วยกวนสูตรโบราณ

มีกล้วยหอมสุกงอมอยู่ จะเอาทิ้งก็ใช่ที่ ซื้อมาทำไมซื้อมาแล้วไม่กิน เสียดายของ กล้วยน้ำว้าเราก็มีเอามาทำกล้วยกวนทานกันดีกว่าไม่เสียของแถมอร่อยอีกต่างหาก เคยมีคนสอนทำตั้งนานแล้ว เค้าบอกว่าเป็นกล้วยกวนสูตรโบราณด้วยนะเออ มาดูวิธีทำกล้วยกวนสูตรโบราณกันดีกว่าค่ะ สิ่งที่ต้องเตรียม กล้วยน้ำว้าสุกงอม 10 ลูก กล้วยหอมสุกงอม 5 ลูก มะพร้าวขูด 500 กรัม น้ำตาลทราย 200 กรัม เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ วิธีทำ - ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าและกล้วยหอม หั่นเป็นชิ้นแล้วปั่นให้ละเอียด เตรียมไว้ - คั้นมะพร้าวกับน้ำอุ่นให้ได้น้ำกะทิ 2 ถ้วย หางกะทิ 2 ถ้วย - นำหัวกะทิ ตั้งไฟอ่อนเคี่ยวให้เป็นน้ำมัน ยกลงพักทิ้งไว้ - ผสมหางกะทิ กับน้ำตาลทราย ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟกลางให้น้ำตาลละลาย - พอน้ำตาลละลายดีแล้วยกลง ทิ้งไว้สักครู่ให้พอคลายร้อน แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง - เทลงในกระทะทองยกขึ้นตั้งไฟ ใส่กล้วยลงไป ใช้ไฟแรง กวนด้วยไม้พายกวนขนม จากนั้นลดไฟลงใช้ไฟอ่อน ใช้เวลาในการกวนประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง จนมีลักษณะข้นเหนียว - ค่อยๆ เทหัวกะทิลงทีละน้อย กวนให้เข้ากันจนกล้วยแห้งเหนียวพอปั้นได้ ยกลง เทใส่ถาดใช้ไม้คลึงหน้าขนมให้เรียบรอให้เย็นแล้วตัดเ