ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ข้าวต้มหมูทรงเครื่อง




เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวอีกเดี๋ยวก็ฝนตก อากาศบ้านเราแปลกๆ ขึ้นนะเดี๋ยวนี้ ชวนให้จะเป็นไข้เป็นหวัดอยู่เรื่อยๆ เลย ตื่นมาเช้าๆ แบบนี้รู้สึกแสบๆ คอ พอดีในตู้เย็นมีข้าวสวยที่หุงแล้วเหลือจากเมื่อวาน เตรียมไว้ว่าเช้านี้จะผัดข้าวทานกัน แต่แสบๆ คอแบบนี้ทานพวกผัดๆ มีพวกน้ำมันคงยิ่งแสบคอน่าดูเลย เปลี่ยนมาทำข้าวต้มร้อนๆ ทานคงน่าจะคล่องคอดีกว่าว่าไหม๊คะ

สิ่งที่ต้องเตรียม
ข้าวสวย 1 ถ้วย
หมูสับ 70 กรัม
กุ้งแห้ง 20 กรัม
ปลาหมึกแห้ง 2 ตัว
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
กระเทียมสับ 5 กลีบ
กระดูกต้มซุป 2 ชิ้น
ต้นหอม 1 ต้น
คื่นช่าย 1 ต้น
ผักชีฝรั่ง 3 ใบ

วิธีทำข้าวต้มหมูทรงเครื่อง
- คื่นช่าย ต้นหอมและผักชีฝรั่งมาล้างให้สะอาด หั่นเตรียมไว้ ส่วนผักชีฝรั่งหั่นเป็นฝอยเป็นฝอยๆใส่ถ้วยไว้เช่นกัน

- ส่วนปลาหมึกและกุ้งแห้งนำไปแช่น้ำให้นิ่มก่อน เมื่อนิ่มแล้วนำปลาหมึกมาล้างแล้วหั่นเป็นเส้นๆ เตรียมไว้

- นำหม้อใส่น้ำเปล่ายกขึ้นตั้งไฟ แล้วล้างกระดูกต้มซุปใส่ลงไป เคี่ยวทิ้งไว้จนได้้น้ำซุป

- ตักกระดูกหมูออกให้เหลือแต่น้ำซุป (กระดูกหมูเอาไว้แทะเนื้อกินเล่นๆ ได้ค่ะ) ต้มต่อจนน้ำซุปเดือดจึงใส่ข้าวสวยลงไป

- ระหว่างนั้นตั้งกระทะใส่น้ำมัน พอร้อนใส่กระเทียมลงไปเจียวให้เหลืองตักใส่ถ้วยไว้ ส่วนน้ำมันที่เหลือใส่ปลาหมึกที่หั่นไว้ลงไปทอดจนปลาหมึกเหลืองกรอบ ตักใส่ถ้วยพักไว้

- ส่วนข้าวต้มที่ต้มไว้ให้ใส่กุ้งและหมูสับลงไป พอเดือดอีกรอบให้ใส่เกลือป่นและปลาหมึกทอดลงไป

- เมื่อหมูสุกแล้วใส่กระเทียมเจียวลงไป ปิดไฟ ใส่ผักชีฝรั่ง คื่นช่ายและต้นหอมลงไป คนให้เข้ากันตักใส่ถ้วยทานร้อนๆ ได้เลยค่ะ (ของเราชอบใส่พริกน้ำปลา เพราะอยากได้รสจัดๆ มีเผ็ดเปรี้ยวเค็มๆ ชอบๆ อร่อยดี)

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ขนมไข่เต่า

วันนี้มีขนมไข่สัตว์มาฝากอีกแล้วค่ะ คราวที่แล้วทำ ขนมไข่นกกระทา ไป แต่คราวนี้ก็ถึงคิวของนขนมไข่เ่ต่ามั่งแล้วค่ะ ใครอยากได้สูตรการทำขนมไข่เต่า รีบจดแล้วไปทำให้คนที่บ้านกินกันได้เลยค่ะ ขนมไข่เต่าเวลาทำประกอบไปด้วยส่วนของไส้และส่วนของแป้งนะคะ ส่วนของไส้ใครชอบไส้แบบไหนก็ดัดแปลงได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นไส้เผือก ไส้ถั่วแดง หรือไส้มะพร้าวก็ยังได้เลยค่ะ ส่วนผสมของไส้ ถั่วซีกนึ่งบดละเอียด 1 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วยตวง กะทิ 75 มล. เกลือป่น 1/3 ช้อนชา วิธีทำไส้ - ใส่น้ำกะทิ น้ำตาล และเกลือป่นลงในกระทะ ยกขึ้นตั้งไฟ - พอกะทิเริ่มเดือดใส่ถั่วซีกบดลงไป กวนไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมเริ่มจับตัวเป็นก้อน ร่อนไม่ติดกระทะ ปิดไฟตักใส่ถ้วยไว้ - รอจนเย็นพอที่ปั้นเป็นก้อนได้แล้ว ก็ปั้นเป็นก้อนๆ เตรียมไว้ขนาดประมาณเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว หรือเล็กใหญ่ตามชอบ ส่วนผสมของแป้ง แป้งข้าวเหนียวประมาณ 1 1/2 ถ้วยตวง แป้งสาลีประมาณ 3/4 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปูนใส 3 ช้อนโต๊ะ น้ำเย็น งาขาว 1/2 ถ้วย วิธีทำขนมไข่เต่า - แป้งข้าวเหนียว แป้งสาลี และผงฟูร่อนเข้าด้วยกัน 3 รอบ - ผสมน้ำตาลทรายกับน้ำปูนใสจนละลาย เท...

แกงกะหล่ำปลีใส่หมู

ไปเที่ยวที่บ้านกลับมาคราวนี้ เราแบกผักสดมาจากบ้านเยอะมาก มีทั้งลูกขนุนอ่อน ถั่วฝักยาว พริกหนุ่ม กระเทียมสด มะเขือเทศ แล้วยังมีกะหล่ำปลีอีกด้วย ทุุกอย่างเป็นผลิตผลจากสวนของน้าซึ่งเป็นน้องชายของแม่ทั้งนั้น วันนี้เราเลยลงมือทำแกงกะหล่ำปลีใส่หมู ซึ่งเป็นสูตรอาหารของชาวเหนือแท้ๆ มาค่ะมาดูว่าแกงกะหล่ำปลีใส่หมูของสาวเหนือเช่นเราทำกันยังไงน๊า สิ่งที่ต้องเตรียม กะหล่ำปลีซอยหยาบๆ 1 หัว (ประมาณ 500 กรัม) เนื้อหมูหั่นชิ้นพอดีคำ 250 กรัม มะเขือเทศสีดาผ่าครึ่ง 5-6 ลูก พริกขี้หนูแห้ง 12 เม็ด กระเทียม 7 กลีบ หอมแดง 2 หัว เกลือป่น 1/2 ช้อนชา กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ ต้นหอมผักชีซอย 2-3 ต้น วิธีทำแกงกะหล่ำใส่หมู - เรามาลงมือตำน้ำพริกกันก่อนค่ะ โดยนำพริกแห้ง หอมแดง กระเทียม เกลือป่น และกะปิ ใส่ครกตำให้ละเอียด - เอาหมูใส่ลงไปในหม้อ ตักน้ำพริกแกงที่ตำไว้ใส่ตามลงไป - ใช้น้ำเปล่าล้างครกให้เกลี้ยง เทใส่ลงไปในหม้อ คนให้พริกแกงละลาย ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ คั่วไปเรื่อยๆ จนน้ำเริ่มแห้ง ทีนี้ก็ใส่น้ำลงไปกะให้ท่วมเนื้อหมูและกะหล่ำปลี ตั้งทิ้งไว้รอให้เดือด - พอน้ำในหม้อเดือด ก็ใ่ส่กะหล่ำปลีลงไป ใช้ทัพพีกดเบาๆ ให...

แป้งสาลี

หลายๆท่านที่เคยทำขนมทำเบเกอรี่มาก็ไม่รู้ซักกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ต้อง มีส่วนประกอบของแป้งสาลี เช่น ขนมปัง ขนมเค้ก พิซซ่า บะหมี่ คุ้กกี้ ฯลฯ อาหารต่างๆ เหล่านี้ล้วนทำมาจากแป้งสาลีทั้งสิ้น แป้งสาลีจึงถือว่าเป็นวัตถุดิบที่มีบทบาทสำคัญมากต่อการปรุงอาหารในปัจจุบัน แต่จะมีคนซักกี่คนที่จะรู้จักที่มาที่ไปของแป้งสาลีดีพอ วันนี้เลยมีเรื่องเกี่ยวกับแป้งสาลีมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อที่จะได้รู้จักแป้งสาลีกันมากขึ้น ในสมัยก่อนแป้งสาลีนั้นเราได้จากการบดหรือโม่เมล็ดข้าวให้ได้แป้ง โดยใช้โม่หินเมื่อเวลาผ่านมามนุษย์สมัยก่อนได้รู้จักการผสมแป้ง และน้ำเข้าด้วยกันจนกลายเป็นก้อนโด(Dough)และนำก้อนโดนี้ ไปอบบนหินเผาไฟก้อนโดนี้จะมีลักษณะแข็งภายนอก เนื้อในนุ่ม ซึ่งเหมือนกับการอบขนมปังทั่วๆ ไปนั่นเอง คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่เราควรจะมารู้จักแป้งสาลีให้ดีขึ้น เพื่อที่จะได้นำแป้งสาลีไปใช้ได้ถูกต้องกับการทำอาหาร แต่ละชนิด แป้งสาลีมีคุณสมบัติแตกต่างจากแป้งชนิดอื่นคือ เมื่อผสมน้ำในอัตราส่วนที่ถูกต้องโปรตีนในแป้งจะจับตัวกัน เกิดเป็นก้อนโด (Dough) มีลักษณะเหนียวแต่ยืดหยุ่นได้ สามารถที่จะเก็บแก๊สไว้ได้ ซึ่งจะเป็นโครง...