ดอกสะแลเป็นพืชพื้นบ้านของชาวเหนือ ดอกสะแลจะมีอยู่สองแบบ ถือแบบที่เป็นเม็ดกลมๆ กับดอกที่เป็นเม็ดยาว ซึ่งคล้ายๆ กับดีปลี แต่เราชอบดอกสะแลแบบเป็นเม็ดกลมมากกว่า เพราะเวลาเราเอามาทำ แกงสะแล จะทำให้ได้อรรถรสในการกินมากว่า ดอกสะแลเม็ดยาวเวลากัดรู้สึกจะนิ่มๆ ลื่นๆ ไม่น่าทานค่ะ ใครอยากทานแกงดอกสะแล ซึ่งเป็นอาหารของชาวเหนือ ก็มาเข้าครัวพร้อมๆ กันเลยค่ะ
สิ่งที่ต้องเตรียม
ดอกสะแล 2 ถ้วย
กระดูกหมู 500 กรัม
มะเขือเทศ 4 ลูก
พริกขี้หนูแห้ง 15-20 เม็ด
หอมแดง 3 หัว
กระเทียม 6-7 กลีบ
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำแกงสะแล
- ก่อนอื่นเราต้องนำดอกสะแลมาตัดล้างทำความสะอาด พักไว้ก่อน
- ส่วนมะเขือเทศก็ล้างน้ำแล้วหั่นเป็นเสี้ยวๆ เตรียมไว้
- สำหรับน้ำพริกเครื่องแกงสำหรับทำแกงสะแล เราก็ลงมือตำกันเลย โดยนำพริกแห้ง กระเทียม หอมแดง เกลือป่น และกะปิ ใส่ครกตำให้ละเอียด
- นำกระดูกหมูไปล้างน้ำ ใส่ลงไปในหม้อ ใส่น้ำพริกเครื่องแกงที่เราตำไว้ลงไป
- เทน้ำล้างครกใส่ตามลงไปในหม้อ คนให้เข้ากัน ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ คั่วทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที หรือจนน้ำงวด
- ทีนี้ก็เติมน้ำเปล่าลงไป ใช้ไฟแรง รอจนน้ำในหม้อเดือดจัด ลดใช้ไฟอ่อนถึงปานกลาง ต้มทิ้งไว้จนกว่าเนื้อหมูจะนุ่ม
- พอหมูสุกนุ่มแล้ว ใส่ดอกสะแลลงไป ใช้ทัพพีกดเบาๆ ให้ดอกสะแลยุบตัว
- พอดอกสะแลสุก ใส่มะเขือลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา
- ตั้งทิ้งไว้ซักครู่้ก็ปิดไฟได้เลยค่ะ
- ตักแกงดอกสะแลใส่ถ้วย ยกเสิร์ฟร้อนๆ ค่ะ
ความคิดเห็น