ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

น้ำพริกไข่เค็ม


วันนี้มีเมนูไข่เค็มมาฝากอีกแล้วค่ะ วันก่อนซื้อไข่เค็มมาทำยำไข่เค็มไป แต่ใช้ไม่หมดยังมีเหลืออีก 2 ฟอง วันนี้รู้สึกอยากหาน้ำพริกอะไรมาจิ้มกับผักสดทานบ้าง เลยเอาไข่เค็มมาทำน้ำพริกไข่เค็มอร่อยๆ ทานกันดีกว่า น้ำพริกไข่เค็มนี่ถือว่าเป็นเมนูโปรดเลยทีเดียว เวลาทานรสชาติจะคล้ายๆ กับน้ำพริกไข่แมงดาทะเลยังไงยังงั้นเลยค่ะ ไม่เชื่อลองไปทำทานกันดูซิคะ แล้วจะรู้ว่าใช่เลย

สิ่งที่ต้องเตรียม
ไข่เค็มต้มสุก 2 ฟอง
กุ้งแห้ง(กุ้งเนื้อ) 7-8 ตัว
พริกขี้หนู 10 เม็ด
กระเทียมไทย 6 กลีบ
กะปิย่างไฟ 1/3 ช้อนโต๊ะ
มะเขือพวง 7-8 เม็ด
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำต้มสุก

วิธีทำน้ำพริกไข่เค็ม
- นำไข่เค็มต้มสุกมาผ่า แยกเอาไข่แดงกับไข่ขาวออกจากกันเตรียมไว้ก่อน
- ทีนี้ก็นำกุ้งแห้งไปแช่น้ำอุ่นให้นิ่ม แล้วจึงนำมาโขลกให้ละเอียด
- ใส่พริกขี้หนู กระเทียม กะปิเผาไฟและน้ำตาลปี๊บ ตามลงไปโขลกให้เข้ากัน
- เอาไข่ขาวมายีให้เป็นชิ้นเล็กใส่ลงไปในครกบดให้เข้ากัน
- ทีนี้ก็ใส่ไข่แดงลงไปได้เลย แค่ใช้สากกดเบาๆ ไข่แดงก็ละเอียดแล้วค่ะ
- ท้ายสุดก็ใส่มะเขือพวงลงไป ตำเบาๆ ให้มะเขือพวงแค่พอแตกก็พอ จากนั้นตักใส่ถ้วย
- เติมน้ำต้มสุกลงไปเล็กน้อย ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำมะนาวตามชอบ ชิมรสชาติให้ถูกปาก จัดเสิร์ฟพร้อมกับผักสดตามชอบ

แค่นี้เราก็จะได้น้ำพริกไข่เค็มเอาไว้ทานกับผักสดๆ แล้วค่ะ (หากน้ำพริกข้นเกินไปก็เติมน้ำต้มสุกเพิ่มได้อีกค่ะ น้ำพริกจะได้เหลวๆ บ้าง แต่อย่าใส่เยอะเดี๋ยวน้ำพริกจะเหลวเกินไป จิ้มไม่ติดผักไม่รู้ด้วยนะคะ อิอิ)

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แป้งสาลี

หลายๆท่านที่เคยทำขนมทำเบเกอรี่มาก็ไม่รู้ซักกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ต้อง มีส่วนประกอบของแป้งสาลี เช่น ขนมปัง ขนมเค้ก พิซซ่า บะหมี่ คุ้กกี้ ฯลฯ อาหารต่างๆ เหล่านี้ล้วนทำมาจากแป้งสาลีทั้งสิ้น แป้งสาลีจึงถือว่าเป็นวัตถุดิบที่มีบทบาทสำคัญมากต่อการปรุงอาหารในปัจจุบัน แต่จะมีคนซักกี่คนที่จะรู้จักที่มาที่ไปของแป้งสาลีดีพอ วันนี้เลยมีเรื่องเกี่ยวกับแป้งสาลีมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อที่จะได้รู้จักแป้งสาลีกันมากขึ้น ในสมัยก่อนแป้งสาลีนั้นเราได้จากการบดหรือโม่เมล็ดข้าวให้ได้แป้ง โดยใช้โม่หินเมื่อเวลาผ่านมามนุษย์สมัยก่อนได้รู้จักการผสมแป้ง และน้ำเข้าด้วยกันจนกลายเป็นก้อนโด(Dough)และนำก้อนโดนี้ ไปอบบนหินเผาไฟก้อนโดนี้จะมีลักษณะแข็งภายนอก เนื้อในนุ่ม ซึ่งเหมือนกับการอบขนมปังทั่วๆ ไปนั่นเอง คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่เราควรจะมารู้จักแป้งสาลีให้ดีขึ้น เพื่อที่จะได้นำแป้งสาลีไปใช้ได้ถูกต้องกับการทำอาหาร แต่ละชนิด แป้งสาลีมีคุณสมบัติแตกต่างจากแป้งชนิดอื่นคือ เมื่อผสมน้ำในอัตราส่วนที่ถูกต้องโปรตีนในแป้งจะจับตัวกัน เกิดเป็นก้อนโด (Dough) มีลักษณะเหนียวแต่ยืดหยุ่นได้ สามารถที่จะเก็บแก๊สไว้ได้ ซึ่งจะเป็นโครง

ไข่ปลาทอด

ไข่ปลาก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าทานบ่อยไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เพราะคอเลสเตอรอลสูงมากๆ แต่มันก็อดใจไม่ไหว มันอร่อย คราวที่แล้วก็ทำเมนู ต้มยำไข่ปลา ไปแล้ว คราวนี้ก็ไข่ปลาอีกแล้วแต่เป็นเมนูไข่ปลาทอดแทน ไม่ไหวแล้วขอตัวไปทานไข่ปลาทอดก่อนดีกว่า สิ่งที่้ต้องเตรียม ไข่ปลายี่สก 400 กรัม กระเทียม 7 กลีบ พริกไทย 1/2 ช้อนชา ซีอิ้วชาว 1 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส 1 ช้อนชา แป้งโกกิ 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำไข่ปลาทอด - แกะเปลือกกระเทียมออก ทุบกระเทียมหยาบๆ แล้วสับให้ละเอียด - ล้างไข่ปลาแล้วฉีกพวงไข่ปลาให้แยกออกจากกัน (ส่วนที่เป็นเยื่อหุ้มไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกว่าอะไร) - มักไข่ปลากันกระเทียม พริกไทย ซีอิ้วขาว ผงปรุงรส หมักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที - ละลายแป้งโกกิกับน้ำเย็นให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเทใส่ชามที่หมักไข่ปลา ค่อยๆ คนให้เข้ากัน - ตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับทอด ปรับไฟกลางถึงอ่อน พอร้อนใส่ไข่ปลาลงไปทอด - ขณะที่ทอดห้ามคน รอให้ข้างล่างสุกกรอบก่อนค่อยกลับอีกด้านลงไปทอดให้เหลืองกรอบทั้งสองด้าน จึงตักพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน - จัดใส่จานเสิร์ฟทานกับผักสดและพริกน้ำปลาแซ่บหลายเด้อ

กล้วยกวนสูตรโบราณ

มีกล้วยหอมสุกงอมอยู่ จะเอาทิ้งก็ใช่ที่ ซื้อมาทำไมซื้อมาแล้วไม่กิน เสียดายของ กล้วยน้ำว้าเราก็มีเอามาทำกล้วยกวนทานกันดีกว่าไม่เสียของแถมอร่อยอีกต่างหาก เคยมีคนสอนทำตั้งนานแล้ว เค้าบอกว่าเป็นกล้วยกวนสูตรโบราณด้วยนะเออ มาดูวิธีทำกล้วยกวนสูตรโบราณกันดีกว่าค่ะ สิ่งที่ต้องเตรียม กล้วยน้ำว้าสุกงอม 10 ลูก กล้วยหอมสุกงอม 5 ลูก มะพร้าวขูด 500 กรัม น้ำตาลทราย 200 กรัม เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ วิธีทำ - ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าและกล้วยหอม หั่นเป็นชิ้นแล้วปั่นให้ละเอียด เตรียมไว้ - คั้นมะพร้าวกับน้ำอุ่นให้ได้น้ำกะทิ 2 ถ้วย หางกะทิ 2 ถ้วย - นำหัวกะทิ ตั้งไฟอ่อนเคี่ยวให้เป็นน้ำมัน ยกลงพักทิ้งไว้ - ผสมหางกะทิ กับน้ำตาลทราย ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟกลางให้น้ำตาลละลาย - พอน้ำตาลละลายดีแล้วยกลง ทิ้งไว้สักครู่ให้พอคลายร้อน แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง - เทลงในกระทะทองยกขึ้นตั้งไฟ ใส่กล้วยลงไป ใช้ไฟแรง กวนด้วยไม้พายกวนขนม จากนั้นลดไฟลงใช้ไฟอ่อน ใช้เวลาในการกวนประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง จนมีลักษณะข้นเหนียว - ค่อยๆ เทหัวกะทิลงทีละน้อย กวนให้เข้ากันจนกล้วยแห้งเหนียวพอปั้นได้ ยกลง เทใส่ถาดใช้ไม้คลึงหน้าขนมให้เรียบรอให้เย็นแล้วตัดเ