ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ต้มแซ่บ



วันนี้เป็นวันแรกที่เริ่มต้นอัพเดทบล็อค หลังจากที่ห่างหายไปนาน เหตุเพราะสุขภาพไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่มีอาการเหมือนคนป่วย ปกติเป็นคนที่กลัวคุณหมอมาก คราวนี้ทนการรบเร้าของคุณสามีไม่ไหวเลยต้องไปให้คุณหมอตรวจดู คุณหมอแจ้งว่าตั้งท้องได้ 6 สัปดาห์แล้ว รู้สึกดีใจมากๆ จนร้องไห้ออกมารู้สึกว่าชีวิตมีความหวังมากขึ้น หลังจากที่เฝ้ารอมาเป็นเวลา 10 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็แอบเอาลูกคนอื่นเค้ามาเลี้ยงแล้วแอบอ้างว่าเป็นลูกตัวเอง แป๊บๆ พ่อแม่เค้าก็มาทวงคืนเพราะเค้าให้ยืมมาเลี้ยง ไม่ยอมมีใครยกให้เป็นลูกจริงๆ ซักที อายุก็มากแล้ว คุณหมอบอกว่าให้นอนพักมากๆ เราก็ทำตามคุณหมอบอกทุกอย่าง อะไรที่ดีต่อคนท้องและต่อเด็กในท้องเราก็สรรหามาบำรุง แต่สุดท้ายก็ดีใจได้อีกแค่ 2 สัปดาห์กว่าๆ พอวันที่ 29 ธันวาคม รู้สึกมีเลือดออกก็เลยรีบไปหาคุณหมอที่คลีนิค คุณหมอก็บอกว่า พยายามนอนพักมากๆอย่าลุกเดินไปไหน แล้ววันพรุ่งนี้ไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาล คุณหมอจะอัลตร้าซาวด์ดูอีกที เพราะเราเคยมีปัญหาเคยตั้งครรถ์ไข่ฝ่อมาก่อนและเลยขูดมดลูกด้วย พอกลับถึงบ้านคืนนั้นตอนดึกๆ รู้สึกเลืือดออกเยอะมากและปวดท้องมากมากจนทนไม่ไหว แฟนเลยจะพาไปโรงพยาบาลคืนนั้นเลย แต่เราบอกอยากเข้าห้องน้ำก่อน พอเข้าไปในห้องน้ำก็มีเลือดออกมาเยอะมาก แล้วอาการเจ็บท้องก็ทุเลาลงและหายไป เราก็เลยบอกแฟนว่าตอนนี้ดึกมากแล้วยังไม่ต้องไปหรอกรอวันพรุ่งนี้ก่อนก็แล้วก็แล้วกันตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้วหายเจ็บท้องแล้ว พอรุ่งเช้าเราก็รีบไปพบคุณหมอแต่เช้าเลย คนหมอก็อัลตร้าซาวด์ดูหน้าท้อง แต่คุณหมอบอกว่าเห็นไม่ชัด คุณหมอจะอัลตร้าซาวด์ผ่านช่องคลอดแทน ผลออกมาคือหมอบอกว่าเราแท้งแล้วและเป็นแท้งสมบูรณ์โดยไม่ต้องขูดมดลูกด้วย เรารู้สึกแข้งขาอ่อนแทบไม่มีแรงเดินเลย แต่มันก็เป็นความเสียใจซ้ำซากที่เคยเกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่ง จนเรารู้สึกท้อแล้ว และแฟนก็สงสารเราบอกว่า ไม่ต้องเอาแล้วเค้าจะไม่ให้เราตั้งท้องอีกแล้วเค้าบอกเค้าสงสารเรา เค้าทนเห็นเราเจ็บตัวอีกไม่ได้แล้ว และเค้าก็พาเราไปทำบุญเพื่อให้จิตใจสบาย เพื่อพร้อมที่จะเิริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่ ถึงแม้ว่าเราจะมีอาการเศร้าบ้างในบางครั้ง แต่เค้าก็จะคอยปลอบใจ ไม่ยอมให้เราอยู่คนเดียว เราจะอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง แต่ตอนนี้สุขภาพจิตเราก็ดีขึ้นมาก เราเลยลุกมาช่วยแฟนทำอาหารมมื้อแรกมาฝากเพื่อนๆ ด้วยก็ต้มแซ่บสูตรคุณสามีค่ะ














สิ่งที่ต้องเตรียม
เนื้อวัว 500 กรัม
น้ำเปล่าประมาณ 10 ถ้วย
เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสดทุบ 10 เม็ด
น้ำมะนาวตามชอบ
โหระพาเด็ดใบ ½ ถ้วย
ต้นหอมซอย 2 ต้น
ผักชีฝรั่งหั่น 2 ต้น
ใบขึ้นฉ่ายหั่น 2 ต้น
ตะไคร้ทุบหั่นท่อน 1 ต้น
ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
ข่าหั่น 5 แว่น
หอมแดงผ่า 2 หัว

วิธีทำต้มแซ่บ
- เอาน้ำเปล่าใส่หม้อยกขึ้นตั้งไฟให้เดือด ใส่เนื้อวัวลงเคี่ยว ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด อย่างละนิดหน่อย เติมเกลือ น้ำตาลทราย เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนเคี่ยวจนเนื้อเปื่อย
- หมั่นช้อนฟองทิ้ง พอเนื้อเปื่อยได้ที่แล้ว ถ้าน้ำแห้งเกินไปให้เติมน้ำเปล่าลงไปอีก ใส่ตะไคร้ ข่า ใบมะกรูดส่วนที่เหลือและหอมแดงลงไป
- ใส่น้ำปลา พริกขี้หนูทุบ ใบโหระพา พอเดือด ปิดไฟ ปรุงรสด้วยมะนาวให้ออกรสเปรี้ยวนำ เค็ม เผ็ด และหวานนิดๆ ติดปลายลิ้น ตักใส่ชาม
- โรยผักต้นหอม ผักชีฝรั่ง ใบขึ้นฉ่าย และพริกแห้งทอด ทานกับข้าวสวยร้อนๆ

ความคิดเห็น

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า
ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูล

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แป้งสาลี

หลายๆท่านที่เคยทำขนมทำเบเกอรี่มาก็ไม่รู้ซักกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ต้อง มีส่วนประกอบของแป้งสาลี เช่น ขนมปัง ขนมเค้ก พิซซ่า บะหมี่ คุ้กกี้ ฯลฯ อาหารต่างๆ เหล่านี้ล้วนทำมาจากแป้งสาลีทั้งสิ้น แป้งสาลีจึงถือว่าเป็นวัตถุดิบที่มีบทบาทสำคัญมากต่อการปรุงอาหารในปัจจุบัน แต่จะมีคนซักกี่คนที่จะรู้จักที่มาที่ไปของแป้งสาลีดีพอ วันนี้เลยมีเรื่องเกี่ยวกับแป้งสาลีมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อที่จะได้รู้จักแป้งสาลีกันมากขึ้น ในสมัยก่อนแป้งสาลีนั้นเราได้จากการบดหรือโม่เมล็ดข้าวให้ได้แป้ง โดยใช้โม่หินเมื่อเวลาผ่านมามนุษย์สมัยก่อนได้รู้จักการผสมแป้ง และน้ำเข้าด้วยกันจนกลายเป็นก้อนโด(Dough)และนำก้อนโดนี้ ไปอบบนหินเผาไฟก้อนโดนี้จะมีลักษณะแข็งภายนอก เนื้อในนุ่ม ซึ่งเหมือนกับการอบขนมปังทั่วๆ ไปนั่นเอง คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่เราควรจะมารู้จักแป้งสาลีให้ดีขึ้น เพื่อที่จะได้นำแป้งสาลีไปใช้ได้ถูกต้องกับการทำอาหาร แต่ละชนิด แป้งสาลีมีคุณสมบัติแตกต่างจากแป้งชนิดอื่นคือ เมื่อผสมน้ำในอัตราส่วนที่ถูกต้องโปรตีนในแป้งจะจับตัวกัน เกิดเป็นก้อนโด (Dough) มีลักษณะเหนียวแต่ยืดหยุ่นได้ สามารถที่จะเก็บแก๊สไว้ได้ ซึ่งจะเป็นโครง

ไข่ปลาทอด

ไข่ปลาก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าทานบ่อยไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เพราะคอเลสเตอรอลสูงมากๆ แต่มันก็อดใจไม่ไหว มันอร่อย คราวที่แล้วก็ทำเมนู ต้มยำไข่ปลา ไปแล้ว คราวนี้ก็ไข่ปลาอีกแล้วแต่เป็นเมนูไข่ปลาทอดแทน ไม่ไหวแล้วขอตัวไปทานไข่ปลาทอดก่อนดีกว่า สิ่งที่้ต้องเตรียม ไข่ปลายี่สก 400 กรัม กระเทียม 7 กลีบ พริกไทย 1/2 ช้อนชา ซีอิ้วชาว 1 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส 1 ช้อนชา แป้งโกกิ 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำไข่ปลาทอด - แกะเปลือกกระเทียมออก ทุบกระเทียมหยาบๆ แล้วสับให้ละเอียด - ล้างไข่ปลาแล้วฉีกพวงไข่ปลาให้แยกออกจากกัน (ส่วนที่เป็นเยื่อหุ้มไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกว่าอะไร) - มักไข่ปลากันกระเทียม พริกไทย ซีอิ้วขาว ผงปรุงรส หมักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที - ละลายแป้งโกกิกับน้ำเย็นให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเทใส่ชามที่หมักไข่ปลา ค่อยๆ คนให้เข้ากัน - ตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับทอด ปรับไฟกลางถึงอ่อน พอร้อนใส่ไข่ปลาลงไปทอด - ขณะที่ทอดห้ามคน รอให้ข้างล่างสุกกรอบก่อนค่อยกลับอีกด้านลงไปทอดให้เหลืองกรอบทั้งสองด้าน จึงตักพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน - จัดใส่จานเสิร์ฟทานกับผักสดและพริกน้ำปลาแซ่บหลายเด้อ

แกงกะหล่ำปลีใส่หมู

ไปเที่ยวที่บ้านกลับมาคราวนี้ เราแบกผักสดมาจากบ้านเยอะมาก มีทั้งลูกขนุนอ่อน ถั่วฝักยาว พริกหนุ่ม กระเทียมสด มะเขือเทศ แล้วยังมีกะหล่ำปลีอีกด้วย ทุุกอย่างเป็นผลิตผลจากสวนของน้าซึ่งเป็นน้องชายของแม่ทั้งนั้น วันนี้เราเลยลงมือทำแกงกะหล่ำปลีใส่หมู ซึ่งเป็นสูตรอาหารของชาวเหนือแท้ๆ มาค่ะมาดูว่าแกงกะหล่ำปลีใส่หมูของสาวเหนือเช่นเราทำกันยังไงน๊า สิ่งที่ต้องเตรียม กะหล่ำปลีซอยหยาบๆ 1 หัว (ประมาณ 500 กรัม) เนื้อหมูหั่นชิ้นพอดีคำ 250 กรัม มะเขือเทศสีดาผ่าครึ่ง 5-6 ลูก พริกขี้หนูแห้ง 12 เม็ด กระเทียม 7 กลีบ หอมแดง 2 หัว เกลือป่น 1/2 ช้อนชา กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ ต้นหอมผักชีซอย 2-3 ต้น วิธีทำแกงกะหล่ำใส่หมู - เรามาลงมือตำน้ำพริกกันก่อนค่ะ โดยนำพริกแห้ง หอมแดง กระเทียม เกลือป่น และกะปิ ใส่ครกตำให้ละเอียด - เอาหมูใส่ลงไปในหม้อ ตักน้ำพริกแกงที่ตำไว้ใส่ตามลงไป - ใช้น้ำเปล่าล้างครกให้เกลี้ยง เทใส่ลงไปในหม้อ คนให้พริกแกงละลาย ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ คั่วไปเรื่อยๆ จนน้ำเริ่มแห้ง ทีนี้ก็ใส่น้ำลงไปกะให้ท่วมเนื้อหมูและกะหล่ำปลี ตั้งทิ้งไว้รอให้เดือด - พอน้ำในหม้อเดือด ก็ใ่ส่กะหล่ำปลีลงไป ใช้ทัพพีกดเบาๆ ให